ความรู้ และทัศนคติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวให้ครบ 6 เดือน

Main Article Content

สุภาวดี นนทพจน์
อนุวัฒน์ วัฒนพิชญากุล
น้องเล็ก คุณวราดิศัย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เพื่อศึกษาความรู้ และทัศนคติการเลี้ยง ลูกด้วยนมแม่ให้ครบ 6 เดือน กลุ่มตัวอย่างคือ มารดาหลังคลอดที่มีบุตรอายุ 1-12 เดือน ในพื้นที่เขตบริการสุขภาพ ที่ 10 จำนวน 514 คน คำนวณขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตร Yamane Taro Yamene สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stag Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ 0.91 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปเพื่อหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า มารดาหลังคลอดมีอายุเฉลี่ย 29 ปี ส่วนใหญ่ร้อยละ 83.46 มีสถานภาพสมรส ร้อยละ 35.60 มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ร้อยละ 22.71 มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีระยะเวลาในการทำ อาชีพเฉลี่ย 5.59 ปี ร้อยละ 56.42 มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ร้อยละ 73.54 เป็นครอบครัวขยาย (พ่อ แม่/ลูก/ ปู่ย่า/ตายาย/ญาติ) ร้อยละ 58.95 มีสิทธิการรักษาพยาบาลส่วนใหญ่เป็นบัตรทอง จำนวนบุตรโดยเฉลี่ย 1.59 คน ร้อยละ 76.26 มีน้ำนมเพียงพอต่อการเลี้ยงลูก ในด้านระดับความรู้ส่วนใหญ่ร้อยละ 99.81 มีความรู้อยู่ในระดับสูง และมีทัศนคติอยู่ในระดับมาก ( X =4.47, S.D.=0.26) ข้อเสนอแนะในการนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อกำหนด แนวทางหรือหารูปแบบในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ควรมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนใน การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวให้ครบ 6 เดือน ทั้งการให้ข้อมูล การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ ประโยชน์ของนมแม่อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ และมีการขยายผลไปยังคนในครอบครัว ชุมชน ตลอดจนกลุ่มนายจ้างและผู้ประกอบการต่าง ๆ ให้มีการรับรู้ประโยชน์ของนมแม่ร่วมกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติตน อย่างถูกต้องและเลี้ยงดูบุตรด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

Article Details

บท
Articles
Author Biographies

สุภาวดี นนทพจน์

นักศึกษาปริญญาเอก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธาน

อนุวัฒน์ วัฒนพิชญากุล

กลุ่มวิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

น้องเล็ก คุณวราดิศัย

กลุ่มวิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

References

กนกวรรณ โคตรสังข์ ศิริวรรณ แสงดินทร์ และอุษา เชื้อหอม. (2559). ผลของโปรแกรมการกระตุ้นการหลั่งน้ำนม

ต่อระยะเวลาการเริ่มไหลของน้ำนมระยะเวลาการมาของน้ำนมเต็มเต้า และการรับรู้ความสามารถในการ

เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาหลังผ่าตัดคลอดบุตรทางหน้าท้อง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย

บูรพา, 24(1),13-26

กรรณิการ์ จันทร์แก้ว และธิดารัตน์ นฤมิตมนตรี. (2563). ผลของยาสมุนไพรบำรุงน้ำนมต่อระดับการไหลของน้ำนม

ในมารดาหลังคลอด. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(2), 41-50.

กฤษณา ปิงวงค์ และกรรณิการ์ กันธะรักษา. (2560). การนวดเต้านมเพื่อส่งเสริมการสร้างและการหลั่งน้ำนม.

วารสารพยาบาลสาร, 44(4), 169-176.

กัมปนาท คำหงส์สา และคณะ. (2561). ผลของการนวดกระตุ้นน้ำนมในหญิงหลังคลอด. โรงพยาบาลห้วยผึ้ง จังหวัด

กาฬสินธุ์.

ขนิษฐา เมฆกมล. (2561). การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่: แนวปฏิบัติในชุมชน. วารสารเครือข่ายวิทยาลัย

พยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(3), 274-286.

ชนัญชิดา สมสุข. (2556). การศึกษาช่วงเวลาและปัจจัยสำคัญของแม่และผู้ดูแลเด็กในการเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนม

ผสม หรืออาหารอื่นในกรุงเทพมหานคร. กลุ่มงานอนามัยแม่และเด็ก สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2552). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 6). อุบลราชธานี:

วิทยาออฟเซทการพิมพ์.

นฤมล อังศิริศักดิ์ ธารทิพย์ จิรกัญจนะ ภัทรพร อรัณยภาค และวารุณี เพไร. (2560). ความรู้ ทัศนคติแนวคิดและ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของวัยรุ่นชุมชนศรีประดู่.การประชุมวิชาการระดับชาติ

ประจำปี 2560 สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตน์

ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี, 905-915.

นิตยา พันธ์งาม ปราณี ธีรโสภณ และสุพรรณี อึ้งปัญสัตวงศ์. (2559). ผลของการประคบเต้านมด้วยลูกประคบเจล

โพลิเมอร์แบบอุ่นชื้นต่อระยะเวลาการหลั่งน้ำนมครั้งแรกในมารดาหลังคลอดครรภ์แรก. วารสารวิทยาลัย

พยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 27(1), 28-38.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

เบญจวรรณ ละหุการ มลิวัลย์ รัตยา ทัศณีย์ หนูนารถ และมารียามะแซ. (2562). การนวดเต้านมด้วยตนเอง :

แนวคิดและวิธีการจัดการต่อการไหลของน้ำนมในมารดาหลังคลอด. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร, 22(3),

-114.

ประคอง กรรณสูตร.(2542). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย.

พัตธนี วินิจจะกูล และอรพร ดำรงวงศ์ศิริ. (2563). สถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ปัจจัยเอื้อและอุปสรรค

นโยบายและมาตรการการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย. วารสารโภชนาการ, 55(1), 66-

ยูนิเซฟ. (2559). ผลของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อสุขภาพและพัฒนาการเด็กและการพัฒนาประเทศ ใน: UNICEF,

บรรณาธิการ. การนำเสนอผลการวิจัยและข้อเสนอเชิงนโยบายจาก “The Lancet Breastfeeding

Series 2016” ณ ห้องประชุมโรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ.

ละเอียด ไชยวัฒน์. (2561). ผลโปรแกรมส่งเสริมการบีบน้ำนมต่อความตั้งใจและพฤติกรรมการบีบเก็บน้ำนมของ

มารดาที่มีทารกเกิดก่อนกำหนด. พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561.

วิภาดา กาญจนสิทธิ์ และปัณณทัต บนขุนทด. (2562). ความรู้ทัศนคติของมารดาหลังคลอดปกติที่เลี้ยงบุตรด้วยนม

มารดาอย่างเดียวนาน 6 เดือน หอผู้ป่วยหลังคลอด โรงพยาบาลบุรีรัมย์. การประชุมวิชาการระดับชาติ

วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 6 ประจำปี พ.ศ.2562 “สังคมผู้สูงวัย: โอกาสและความท้าทายของ

อุดมศึกษา” 30 มีนาคม 2562. วิทยาลัยนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา.

ศิราภรณ์ สวัสดิวร. (2553). ความจำเพาะของน้ำนมและผลต่อสุขภาพทารก. ใน: นิพรรณพร วรมงคล.คู่มือการ

อบรมผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง

ประเทศไทย.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเทศไทย. (2563). โครงการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2562,

รายงานผลฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย: สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเทศไทย.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเทศไทย. (2565). โครงการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2564,

รายงานผลฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย: สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเทศไทย.

สุนทร ยนต์ตระกูล รัตติยา ทองสมบูรณ์ และศุภวดี แถวเพีย. (2556). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการเลี้ยงลูก

ด้วยนมแม่ โดยการบูรณาการแบบมีส่วนร่วม ในชุมชนเครือข่ายโรงพยาบาลมหาสารคาม. วารสารวิชาการ

สาธารณสุข, 22(6), 988-996.

Elise W-X. Wan, Kaye Davey, Madhu Page-Sharp, Peter E. Hartmann, Karen Simmer and Kenneth F.

(2008). Ilett. Dose-effect study of domperidone as a galactagogue in preterm mothers

with insufficient milk supply, and its transfer into milk. British Journal of Clinical

Pharmacology, 66(2), 283–289.

Gatti L. (2008) Matermal perceptions of insufficient milk supply in breast feeding. Journal of

nursing scholarship, 40(4), 355-63.

World Health Organization. (2007). Planning Guide for national implementation of the Global

Strategy for Infant and Young Child Feeding.