การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R ร่วมกับแผนผังกราฟิกที่มีต่อการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

DEVELOPMENT OF STUDENTS COMPREHENSIVE READING ABILITY BY USING SQ4R TEACHING METHOD WITH GRAPHIC ORGANIZERS OF THE ELEVENTH GRADE

ผู้แต่ง

  • เบญจกัลยาณี ศีเสนพิลา สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • วิชยา โยชิดะ สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R, การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ, การจัดการเรียนรู้แบบแผนผังกราฟิก

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เทคนิค SQ4R ร่วมกับ แผนผังกราฟิก ที่มีต่อการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจระหว่างก่อนและหลังเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้เทคนิค SQ4R ร่วมกับแผนผังกราฟิก ตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/10 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม จำนวนนักเรียน 40 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการ วิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R ร่วมกับแผนผังกราฟิก ที่มีต่อการอ่าน ภาษาอังกฤษ และ 2) แบบทดสอบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจที่ผู้วิจัยสร้าง ขึ้น สถิตที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ T-Test

            ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1) การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R ร่วมกับแผนผังกราฟิกที่มีต่อการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.32/78.66 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R ร่วมกับ แผนผังกราฟิกที่มีต่อการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมติฐานที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

คำสำคัญ (Keywords) : การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค SQ4R, การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ, การจัดการเรียนรู้แบบแผนผังกราฟิก

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง (References)

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551.

กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.

ทิศนา แขมมณี. (2565). การอ่านเพื่อความเข้าใจในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย.

วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2563). การพัฒนาการอ่านเพื่อความเข้าใจ. วารสารศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลัยนเรศวร, 22(3), 1-15.

วราวรรณ นันสถิต. (2564). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านจับใจความ โดยใช้การจัดการเรียนรู้

แบบ SQ4R ร่วมกับแผนผังความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสาร

มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 41(4), 73-85.

สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. (2546). วิธีสอนแบบ SQ3R และ SQ4R กระบวนการจัดการเรียนรู้:

เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์.

สุชา อยู่อ่อน. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอน SQ4R ผ่าน

แพลตฟอร์ม ออนไลน์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษา ปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.

สิรีธร สุขเจริญ. (2561) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 5 ด้วยการจัดการเรียนรู้ เทคนิค SQ4R ร่วมกับวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานใต้. วิทยานิพนธ์

ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Ausubel, D. (1963). The Psychology of Meaningful Verbal Learning. Grune & Stratton,

New York.

Brown, H., & Lee, H. (2021). Questioning Techniques in SQ4R Learning. Language

Education Review, 15(4), 98-110.

Clark, J.H. (1991). “Using visual organizer to focus on thinking.” Journal of Reading 34,

: 526-534.

García, M., & Lu, X. (2022). Reading Strategies in SQ4R: A Comparative Study. Journal

of Applied Linguistics, 20(3), 67-82.

Hedberg, K. (2005, Summer). Using SQ4R method with fourth grade ESOL students.

http://gse.gmu.edu/research/tr/articles/SQ4R%20Method/SQ4R.htm.

Jiang, X. & Grabe, W. (2007). “Graphic organizers in reading instruction: Research

findings and issues.” Reading in a foreign Language 19, 1: 43-44.

Smith, J., & Jones, L. (2020). Enhancing Reading Comprehension Through SQ4R.

Journal of Educational Psychology, 35(2), 123-135.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

25-12-2025

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย

หมวดหมู่