บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี

บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี

ผู้แต่ง

  • ธนัญภัสส์ สวัสดิ์มงคล มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
  • สาโรจน์ เผ่าวงศากุล สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

คำสำคัญ:

บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา, การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์, การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครูและ 2) เปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี จำแนกตามประสบการณ์ทำงานของครู และขนาดสถานศึกษา ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี จำนวน 288 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิตามขนาดสถานศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่ กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05

ผลการวิจัยพบว่า 1) บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี ในภาพรวมและรายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านผู้เรียน ด้านโอกาสและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านการบริหารจัดการ 2) การเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาตามการรับรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี จำแนกตามประสบการณ์ทำงานของครู ในภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ส่วนการเปรียบเทียบตามขนาดสถานศึกษา พบว่า ด้านผู้เรียน และด้านโอกาสและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านการบริหารจัดการ            มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยผู้บริหารสถานศึกษาขนาดกลาง และสถานศึกษาขนาดใหญ่ มีบทบาทมากกว่าผู้บริหารสถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง (References)

กาญจนา พรัดขำ. (2565). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจ ในการ

ปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้.

วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.

ขนิษฐา กุลกล้า และสาโรจน์ เผ่าวงศากุล. (2567). การส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา

ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี

เขต 3. วารสารครุศาสตร์ปัญญพัฒน์, 2(1), 46-59.

ขวัญจิต เปี่ยมปราณี. (2559). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาในการพัฒนาข้าราชการครูตาม

มาตรฐานวิชาชีพครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3.

ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบรูพา.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

เบญจพร สุคนธร. (2565). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนออนไลน์

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2.

วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเกริก.

ปิยวรรฒ แสงทอง. (2564). ภาวะผู้นำเชิงพหุวัฒนธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนนำร่องพื้นที่

นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

ฝาริด หมันหลี. (2565). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการเสริมสร้างแรงจูงใจการ

ปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนเอกชนระดับมัธยมศึกษาใน

สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดกระบี่. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต

สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

พรสุดา ด้วงสงค์. (2566). การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา ให้ผู้เรียนด้วย

เทคโนโลยีดิจิทัลในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3.

วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี.

พุทธิพงษ์ ทองเขียว. (2562). บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ตาม

การรับรู้ของผู้บริหารและครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจ

บัณฑิตย์.

วรรณดี จันทรคงทอง. (2559). การศึกษาสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผล

ของโรงเรียน สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11. วิทยานิพนธ์

ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.

วรรษมล ปัญญาทิพย์. (2565). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในการส่งเสริมการ

จัดการเรียนรู้ยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่. การศึกษา

ค้นคว้าด้วยตนเองการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย

พะเยา.

สันต์ชัย พูลสวัสดิ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

กับนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัย

มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(3), 14-28.

สุนันท์ รุ่งอรุณแสงทอง. (2561). การบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพ.

วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี. (2567). ข้อมูลอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากร

ทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี. กาญจนบุรี: ผู้แต่ง.

สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา. (2562). พระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี. (2561). แนวทางการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา. กาญจนบุรี : ผู้แต่ง.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579.

กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

อัจฉราพรรณ บุญจีน. (2565). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาในการบริหารโรงเรียนคุณภาพ

ประจำตำบล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3.

การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี.

Krejcie, R. V. & Morgan, D.W. (1970, Autumn) Determining Sampling Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

04-08-2025

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย

หมวดหมู่