ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารโรงเรียนเป็นฐานกับองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของ 2) เพื่อศึกษาระดับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารโรงเรียนเป็นฐานกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา 4) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางในการบริหารโรงเรียนเป็นฐานกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา ด้านการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานประกอบด้วย หลักการกระจายอำนาจ หลักการมีส่วนร่วม หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้แก่ประชาชน หลักการบริหารตนเองและหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล ด้านการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาประกอบด้วย การเป็นบุคคลที่รอบรู้ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน โครงสร้างขององค์กร เทคโนโลยีสารสนเทศ และการใช้ทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา 40 คน ครู 282 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ .99 และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
- การศึกษาระดับการบริหารโรงเรียนเป็นฐานของสถานศึกษา เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม และรายด้าน ทั้ง 5 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
- การศึกษาระดับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม และรายด้าน ทั้ง 5 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
- การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารโรงเรียนเป็นฐานกับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม มีความสัมพันธ์กันเชิงบวก ในระดับสูงมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
- ข้อเสนอแนะแนวทาง 1) ด้านการบริหารโรงเรียนเป็นฐาน ผู้บริหารควรมีการมอบหมายงานในการบริหารไปยังฝ่ายต่าง ๆ ตามภาระงานที่ได้รับมอบหมายอย่างชัดเจนในรูปแบบคำสั่ง คณะกรรมการสถานศึกษาจะต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ติดตามและรับทราบผลในการบริหารงานทั้ง 4 ฝ่าย 2) ด้านการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ผู้บริหารควรส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าและเป็นเป็นประโยชน์
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรกต วารสิทธิ์. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของ ผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวง. (2553). ทิศทางการจัดสวัสดิการสังคมในช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559). กรุงเทพฯ: เกียรติกรการพิมพ์.
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ, สำนักงาน. (2567). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566-2570. กลุ่มนโยบายและแผน.
จักรพงศ์ สุวรรณรัศมี. (2556). การจัดการความรู้ในสถานศึกษาเพื่อเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้. วารสารวิชาการ, 16(1): 72-78.
เจษฎา นกน้อย และคณะ. (2553). นานาทรรศนะการจัดการความรู้และการสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภัทรศรี อินทร์ขาว. (2561). การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้เพื่อสร้างความผูกพันของพนักงานบริษัทธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
ภัทราวุธ มีทรัพย์มั่น. (2556). การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานกับคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ยุพา โคตะมา. (2556). องค์ประกอบองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 23. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหา บัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
เลขาธิการสภาการศึกษา, สำนักงาน. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (2562). คู่มือการดำเนินงานของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2562. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง
สุภาพร ดาราศีศักดิ์. (2562). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อองค์กร แห่ง การเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
หนูกัณฑ์ ปาโส. (2562). สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งการเรียนรู้ โรงเรียนเอกชนในจังหวัด ร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
อุทัย บุญประเสริฐ. (2545). การบริหารจัดการสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Base Management). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Cheng, Y.C. (1996). School Effectiveness and School-Based Management: A Mechanism for Development. London: The Falmer Press.
Krejcie, R.V., D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. pp. 607-610. New York: Routledge.
Marquardt, M.J. (1996). Building the learning organization: A system approach to Quantum improvement and global success. New York: McGraw-Hill.
Senge, Peter M. (1990). The Fifth Discipline: The Art and Practice of The Learning Organization. New York: Boubleday/Currency.
Wohlstetter, P. (1995). “Getting School-Based Management Right: What Work and What Doesn’t”,Journal of Right Phi Delta Kappan. 77(1): 22-25.