การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย

ผู้แต่ง

  • Nonglak Duriyapunt Office of the Basic Education Commission

คำสำคัญ:

การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, ส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู, โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

            การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบบผสมผสาน (Mixed-Methods) ของการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Approach) และเชิงคุณภาพ (Qualitative Approach) โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณเป็นการวิจัยหลัก มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย (2) สร้างและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบชุมชน             การเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗    ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย (3) ทดลองใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย  (4) ประเมินรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย และ (5) ศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย โดยมีขั้นตอนการวิจัย 5 ขั้นตอน ประชากร ได้แก่ ครูของโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 58 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติพื้นฐาน ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

          ผลการวิจัยพบว่า

  1. ผลการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ความต้องการการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก                       
  2. ผลการสร้างรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) หลักการของรูปแบบ (2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ (3) เนื้อหาของรูปแบบ (4) กระบวนการ และ (5) การวัดและประเมินผล ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
  3. ผลการทดลองใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น พบว่า มีผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับมาก ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ ร้อยละ 3 และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น ปีการศึกษา 2564  ระดับโรงเรียนค่าเฉลี่ย 75.11 สูงกว่าทุกระดับ
  4. ผลการประเมินรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย สรุปผลการสัมภาษณ์ครูในโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น พบว่า ครูผู้สอนมีความสนใจ และกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน” นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ชุมชนมีความภาคภูมิใจกับบุตรหลานที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของโรงเรียน และชุมชนเกิดความรักและความเป็นเจ้าของโรงเรียน ครูต้องการให้มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน” อย่างต่อเนื่อง และศึกษาดูงานจากโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และด้านกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ผลการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น พบว่า มีผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับมาก
  5. ผลการสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอางอิง

จักรกฤษณ์ ถิ่นคำเชิด.(2562).การพัฒนารูปแบบการสร้างชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) สู่

การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ ในโรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง.ร้อยเอ็ด: เทศบาล เมือง ร้อยเอ็ด.

เฉลิมพล สุปัญญาบุตร. (2562).การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สังกัด

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการ บริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม.

บุญชม ศรีสะอาด. (2559). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.

ประคอง รัศมีแก้ว. (2562).การพัฒนารูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้าง

สมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. สุพรรณบุรี: สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3.

ปราณี ไชยภักดี. (2560).การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1.ปริญญา ครุศาสตรมหา บัณฑิตสาขา บริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ.

ยุทธชัย จริตน้อม. (2564). “การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อการเป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ

ของโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ ภาค 11.” วารสารวิจัยวิชาการ

ปีที่ 4 ฉบับที่ 4 (2021): ปีที่ 4 ฉบับที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม 2564).

โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น.(2563).แผนปฏิบัติการปีการศึกษา 2563. โรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น.เชียงราย :

สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย.

สฤษดิ์ วิวาสุขุ.(2562). รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เชิงรุก โรงเรียน

จอมพระประชาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33.สุรินทร์ : สำนักงานเขต พื้นที่การมัธยมศึกษาสุรินทร์.

สิริพร ปาณาวงษ์. (2556). “การพัฒนาสมรรถนะครูนักวิจัยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนคนต้นน้ำ

เจ้าพระยา สำหรับนักศึกษาครูมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์”. วารสารวิชาการและวิจัย สังคมศาสตร์, 10,1-16.

สุชาติ วรโพด. (2564) .การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้

ของครูเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียนของโรงเรียนบ้านใหม่.(จีนา ภักดิ์วิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1. กาญจนบุรี : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 1.

Haak, S. W. (2008). “The person with myocardial infarction” . In. C. E. Guzzetta, & B. M. Dossey

(eds), Cardiovascular Nursing. Holistic Practice. St Lous: Mosby.

Hord, S.M. (1997). Professional Learning Communities : Communities of Inquiry

and Improvement. Austin : Southwest Educational Development Laboratory.

Stoll, L., (2010). “Professional learning communities: A review of the literature.”

Journal of Education Change, 7, 221-258.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

10/01/2023

รูปแบบการอ้างอิง

Duriyapunt, N. (2023). การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกของครูโรงเรียนเทศบาล ๗ ฝั่งหมิ่น สังกัดเทศบาลนครเชียงราย. วารสารชมรมบัณฑิตศิลป์, 1(3). สืบค้น จาก https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jotgac/article/view/164

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย