การพัฒนาเครือข่ายขยายผลระบบกลไกหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาพื้นที่จังหวัดสงขลา
คำสำคัญ:
เครือข่ายขยายผล, ระบบกลไกหนุนเสริม, การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบกลไกหนุนเสริม และระบบกลไกอื่น ๆที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาต้นแบบและสถานศึกษานำร่อง ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานพื้นที่จังหวัดสงขลา และเพื่อพัฒนาเครือข่ายขยายผลการใช้ระบบกลไกหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาต้นแบบไปยังสถานศึกษานำร่อง ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานพื้นที่จังหวัดสงขลา ประชากรเป็นสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างเป็นสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดสงขลา 3 แห่งซึ่งได้มาจากการเลือกตามเกณฑ์ ดำเนินการวิจัยใน 4 ระยะคือ 1) การเตรียมความพร้อม 2) การดำเนินการ 3) การเก็บข้อมูลดำเนินการ และ4) การวิเคราะห์และสรุปข้อมูล เครื่องมือในการวิจัยคือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และประเด็นสนทนากลุ่มมีการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาโดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามและวัตถุประสงค์ เท่ากับ 1.00 เก็บข้อมูลโดยสอบถามครู 24 คน และผู้บริหาร 6 คน รวม 30คน สัมภาษณ์ครู 9 คน และผู้บริหาร 6 คน รวม 15 คน และสนทนากลุ่มเป็น กลุ่มครูจำนวน 9 คน และกลุ่มผู้บริหารจำนวน 6 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ ร่วมกับการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยมีดังนี้ 1) การพัฒนาระบบกลไกมี 2 ลักษณะคือ (1) ระบบกลไกหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาต้นแบบและสถานศึกษานำร่องที่แตกต่างกันตามบริบท และ (2) ระบบกลไกการสร้างเครือข่ายขยายผลการใช้ระบบกลไกหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาต้นแบบไปยังสถานศึกษานำร่องมี 4 ส่วนที่สัมพันธ์กันคือ องค์ความรู้สำคัญ กระบวนการ ผลการทำงาน และบทบาทพี่เลี้ยง 2)ผลการพัฒนาเครือข่ายขยายผลการใช้ระบบกลไกหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาต้นแบบไปยังสถานศึกษานำร่องพบว่า (1) สถานศึกษาต้นแบบดำเนินการ 2 ระยะคือ ระยะการเตรียมพร้อม และระยะการดำเนินการขยายผล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดบทเรียน (2) ทุกสถานศึกษานำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาครู (3) สถานศึกษาใช้ 6 แนวทางการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะที่มีอยู่เดิม และค้นพบ 1 แนวทางใหม่ในการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน (4)เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนกับผู้บริหารและครูทั้งสถานศึกษาต้นแบบและสถานศึกษานำร่อง (5) ผู้เรียนพัฒนาสมรรถนะในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2567) รายงานการวิเคราะห์ ตรวจสอบ และปรับปรุง (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .... ระดับประถมศึกษา และคู่มือการใช้(ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .... ระดับประถมศึกษา. [เอกสารอัดสำเนา].
ทิศนา แขมมณี และคณะ. (2567). เกณฑ์การตรวจสอบการจัดการเรียนร็ฐานสมรรถนะและการวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ. [เอกสารอัดสำเนา].
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น. กรุงเทพมหานคร : บริษัท 21 เซ็นจูรี่ จำกัด
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563) รายงานการวิจัยเรื่องผลการทดลองใช้กรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 สำหรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. [เอกสารอัดสำเนา].
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2566) รายงานการวิจัยระบบกลไกการหนุนเสริมการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. [เอกสารอัดสำเนา].
Hairon, S., Chua, C.S.K., & Neo, W.L. (2018). School-based curriculum development in Singapore: A case study of a primary school. Asia Pacific Journal of Education. 2(11). https://www.semanticscholar.org/paper/School-based-curriculum-development-in-Singapore%3A-a-Hairon- Chua/0361cb5f6794014f8b8be8b1dbcd302845c24886
Lewis, C. (2016). Lesson study step by step: How teacher learning communities improve instruction. Heinemann.
Pedaste ,M. & others. (2014). A model of Innovation Schools: Estonian case-study Social and Behavioral Sciences. 112 (2014) 418 – 427. www.sciencedirect.com
Van ,K., & Sleegers, P. (2019). The role of teacher collaboration in school reform: Teachers’ perceptions and practices in the Netherlands. Educational Review, 71(2), 229-248.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.