การแสดงพื้นเมืองอีสานสร้างสรรค์ ชุด ตุ้มโฮมอวยพร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การแสดงพื้นเมืองอีสานสร้างสรรค์ ชุด ตุ้มโฮมอวยพร มีวัตถุประสงค์การศึกษา คือ 1) ศึกษาแนวคิดและลักษณะท่าฟ้อนแม่บทอีสาน 2) เพื่อสร้างสรรค์การแสดงในรูปแบบของการรำพื้นเมืองภาคอีสาน โดยมีขอบเขตในการศึกษาลักษณะท่าฟ้อนแม่บทอีสานของนางฉวีวรรณ พันธุ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ประจำปีพุทธศักราช 2536 ผู้วิจัยมีวิธีดำเนินการศึกษา ได้แก่ 1) ศึกษาจากเอกสาร งานวิจัย และการสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตชาวอีสาน ศิลปะการฟ้อนพื้นบ้านอีสาน รวมถึงแนวคิดและทฤษฎีในการสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์ 2) การเข้าร่วมสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมในการปฏิบัติท่าฟ้อนแม่บทอีสาน และ 3) การนำผลการศึกษามาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสู่กระบวนการสร้างสรรค์การแสดง ผลการวิจัย พบว่า
- ฟ้อนแม่บทอีสาน ที่ใช้เป็นแบบแผนในการฝึกหัดการฟ้อนพื้นบ้านอีสานให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีจำนวน 48 ท่า โดยมีแนวคิดท่าฟ้อน 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) ท่าฟ้อนที่เลียนแบบกิริยาอาการสัตว์ 2) ท่าฟ้อนที่เลียนแบบลักษณะท่าทาง และการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติกับวิถีชีวิต และ 3) ท่าฟ้อนจากแนวคิดวรรณกรรมท้องถิ่น
- การสร้างสรรค์การแสดงในรูปแบบพื้นเมืองอีสาน มีลำดับการทำงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นตอนเตรียม การแสดงโดยกำหนดชื่อชุดการแสดงด้วยการนำภาษากลาง และภาษาอีสานมาผสมเข้าด้วยกันในชื่อว่า ตุ้มโฮมอวยพร โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 การรวมตัวของกลุ่มชาวอีสาน ช่วงที่ 2 การปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย ช่วงที่ 3 การขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 2) ขั้นตอนการออกแบบการแสดง นำบทผญามาแต่งเป็นกลอนลำอวยพรเข้ากับทำนองเพลงลายตุ้มโฮมที่ได้ประพันธ์ขึ้นใหม่ และทำการคัดเลือกผู้แสดง 9 คนตามเกณฑ์รวมถึงออกแบบการแต่งกายโดยห่มผ้าพันคีงพาดไหล่ด้วยผ้าขิดและนุ่งผ้าซิ่นห้อยชายพกด้วยผ้าซิ่นตีนแดง เกล้ามวยผมทัดดอกรวงผึ้งและปักปิ่นพร้อมกับใส่เครื่องประดับเงิน จากนั้นได้สร้างสรรค์กระบวนท่ารำและการแปรแถว โดยมีแนวคิดการออกแบบท่ารำ 5 ลักษณะ ได้แก่ การใช้เอกลักษณ์ของท่าฟ้อนพื้นบ้านอีสาน การใช้ท่าฟ้อนแม่บทอีสาน การนำท่าแม่บทอีสานมาประยุกต์ การใช้ภาษาท่า และการนำแนวคิดจากการฟ้อนเดินขบวนในงานประเพณีอีสานมาใช้ในการเชื่อมท่ารำ นอกจากนี้ได้นำทฤษฎีทัศนศิลป์มาใช้ออกแบบแถวพื้นฐานทางนาฏศิลป์ไทย การแปรแถวแบบตั้งซุ้ม และการแปรแถวหลายรูปแบบในแถวเดียวกัน โดยใช้การเคลื่อนไหวในลักษณะเส้นตรงแนวตั้ง แนวเฉียง เส้นโค้งวงกว้าง วงกลมและเส้นแบบซิกแซก เพื่อให้เกิดความสวยงาม 3) ขั้นตอนการจัดสนทนากลุ่มโดยผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อประเมินคุณภาพผลงาน และ 4) การเผยแพร่การแสดงพื้นเมืองอีสานสร้างสรรค์ ชุด ตุ้มโฮมอวยพร
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ หวังร่วมกลาง, อนุตรา แก้วบุดดา, ศิรินภา แท่นทอง, อมรรัตน์ เลาหวงศ์เพียรพุฒิ, พบูพิชญ์ ประพันธ์วิทยา, นวรัตน์ รัตนศรีวอ, นิภากรณ์ สุวรรณกูฎ. (2543). ฟ้อนกลองตุ้ม มรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน. ศิลปนิพนธ์ ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ต่อเนื่อง). สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษาภาควิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะศิลปศึกษา,
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
กิตติยา ทาธิสา. ครูชำนาญการ. วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. สัมภาษณ์, 12 ธันวาคม 2562.
คำล่า มุสิกา. (2558). แนวความคิดการสร้างสรรค์นาฏยประดิษฐ์อีสานในวงโปงลาง. วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตร
ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต ภาควิชานาฏยศิลป์ บัณฑิตวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
คำล่า มุสิกา, และวิชชุตา วุธาทิตย์. (2558). แนวความคิดการสร้างสรรค์นาฏยประดิษฐ์อีสานในวงโปงลาง. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(3), 35-60. สืบค้นจาก http://www.ubu.ac.th/web/ files_up/08f2016030716170732.pdf.
ฉวีวรรณ พันธุ. ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ประจำปีพุทธศักราช 2536. สัมภาษณ์, 14 พฤศจิกายน 2562.
ชัยณรงค์ ต้นสุข. (2549). นาฏยประดิษฐ์การแสดงพื้นบ้านของวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ตาม หลักสูตรปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. ภาควิชานาฏยศิลป์ บัณฑิตวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
“ ”. ครูชำนาญการ. วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. สัมภาษณ์, 9 พฤศจิกายน 2562.
ชัยนาท มาเพชร. ครูชำนาญการ. ครูชำนาญการ. วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์. สัมภาษณ์,
ธันวาคม 2562.ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (ม.ป.ป.). สืบค้นจาก http://www/isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/index.php?transaction=post_view.php&cat_ main=all&id_main=42star=0.
ประตูสู่อีสาน. (2563). คำผญา. สืบค้นจาก https://www.isangate.com/new/paya-supasit- kamsoi.html/ประตูสู่อีสาน.
วรัทยา ด้วงปลี. (2556). อิทธิพลของฟ้อนแม่บทอีสานที่มีต่อการสร้างสรรค์การแสดงพื้นบ้านวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด.
วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย บัณฑิตศึกษา, สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2555). อุบลราชธานี มาจากไหน?. กรุงเทพฯ: ชนนิยม.
สุวิทย์ ธีรศาศวัต. (2557). ประวัติศาสตร์อีสาน 2322-2488. ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.