ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารร่วมกับทฤษฎีการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ต่อภาวะน้ำหนักเกินของบุคลากรในโรงพยาบาลวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารร่วมกับทฤษฎีการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ต่อภาวะน้ำหนักเกินของบุคลากรในโรงพยาบาลวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ภายในและระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ เป็นการศึกษาเชิงกึ่งทดลองในบุคลากรโรงพยาบาลวารินชำราบและบุคลากรโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน จำนวน 86 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 43 คน และกลุ่มควบคุม 43 คน เป็นกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการควบคุมน้ำหนักตัวต่อรูปแบบการบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกายและน้ำหนักตัวของบุคลากรในโรงพยาบาลที่มีภาวะน้ำหนักเกิน ระยะเวลาในการวิจัย 12 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติอนุมานใช้ Paired t-test และ Independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีระดับคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้น ทั้งค่าคะแนนความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ทัศนคติเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การปฏิบัติตัวเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร การปฏิบัติตัวเกี่ยวกับกิจกรรมทางกาย และข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับภาวะน้ำหนักเกิน สูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและระดับ 0.05 สรุปได้โปรแกรมการควบคุมน้ำหนักตัวต่อรูปแบบการบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกายและน้ำหนักตัวของบุคลากรในโรงพยาบาลที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และการกระตุ้นเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บุคลากรในโรงพยาบาลที่มีน้ำหนักเกินมีความรู้และทราบถึงอันตรายจากการบริโภคอาหารการรับรู้โอกาสเสี่ยงของการ
เกิดโรคจากภาวะน้ำหนักเกินการรับรู้ความสามารถของตนเองในการควบคุมน้ำหนักตัว การบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกายทำให้บุคลากรมีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยังมีส่วนทำให้ลดบุคลากรที่มีภาวะน้ำหนักเกินรายใหม่ได้อีกด้วย
Article Details
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Obesity and overweight. WHO; 2016.
พูนลาภ เจริญสุข. สถานการณ์โรคอ้วนในประเทศไทย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2559; 30(3): 215-223.
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ. ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในประเทศไทย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2555;32(4):101-110.
ระบบคลังด้านการแพทย์และสุขภาพ. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2559-2561.
เขตสุขภาพที่ 10. รายงานข้อมูลสุขภาพจังหวัดอุบลราชธานี. อุบลราชธานี: กระทรวงสาธารณสุข; 2563.
“ ”. รายงานการตรวจสุขภาพประจำปี. อุบลราชธานี: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.
Matheson A, O'Brien L, Reid JA. The impact of shiftwork on health: a literature review. Journal of Clinical Nursing. 2014;23(23-24):3309-3320.
อรุณ จิรวัฒน์กุล. ชีวสถิติสําหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. ภาควิชาสถิติและประชากรศาสตร์คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น : โรงพิมพ์ คลังนานาวิทยา; 2551.
ธัญลักษณ์วดี ก้อนทองถม, อาภาวรรณ หนูคง และพรรณรัตน์ แสงเพิ่ม. ผลของโปรแกรมการควบคุมน้ำหนักต่อพฤติกรรมการบริโภค และพฤติกรรมการทำกิจกรรม ทางกายของเด็กวัยเรียนที่มีภาวะโภชนาการเกิน. วารสารพยาบาลศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2561; 30(2): 28-40.
วาสนา รุ่งโรจน์วัฒนา, จริยาวัตร คมพยัคฆ์, และพรศิริ พันธสี. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของตน ร่วมกับการสนับสนุนของครอบครัวต่อภาวะโภชนาการเกิน ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารพยาบาลทหารบก. 2562; 20(1): 274-284.
พนาไพร โฉมงาม, ภคิน ไชยช่วย, นุชจรินทร์ แก่นบุปผา, และบุปผาวัลย์ ทิมเวียง. ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ต่อพฤติกรรมสุขภาพ ค่าดัชนีมวลกาย และเส้นรอบเอวของนักศึกษาวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานีที่มีภาวะน้ำหนักเกิน. วารสารการพยาบาลสุขภาพและการศึกษา. 2561; 43(3): 43-53.
จิดาภา อุปรี, นฤมล สินสุพรรณ, และกุหลาบ ปุริสาร. ผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีความสามารถของตนเองในเด็กที่มีภาวะน้ำหนักเกิน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนประถมศึกษา เขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย. 2561; 8(ฉบับพิเศษ): 277-286.
ปัณณทัต ตันธนปัญญากร, นภัสรัญชน์ ฤทษ์เรืองฤทธิ์, นลพรรณ ขันติกุลานนท์, และอารีย์ สงวนชื่อ. ความสัมพันธ์ระหว่าง ความรู้ ทัศนคติ แดละพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ. 2ส. กับระดับดัชนีมวลกายของนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมป์. วารสารวิจัยและพัฒน วไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมป์. 2564; 16(2): 27-41.