การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
ระบบดูแลช่วยเหนือนักเรียน, โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา, สังกัดกรุงเทพมหานครบทคัดย่อ
การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานคร 2) เปรียบเทียบการ บริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานคร จำแนกตามเพศ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และขนาดของโรงเรียน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือครูผู้สอนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสอนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครกลุ่มกรุงเทพเหนือจำนวน 278คน โดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิและเทียบสัดส่วนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ ค่าทีและทดสอบความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1.การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด3ด้าน ได้แก่การส่งเสริมพัฒนานักเรียน ด้านการคัดกรองและด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ส่วนอยู่ใน ระดับมาก 2 ด้านได้แก่ ด้านการส่งต่อนักเรียนและด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา 2. ครูที่มีเพศที่ต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือ สังกัดกรุงเทพมหานครแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนครูที่มีระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน สังกัดในโรงเรียนขนาด แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน ขยายโอกาสทางการศึกษากลุ่มกรุงเทพเหนือสังกัดกรุงเทพมหานครไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562).คู่มือการคัดเลือกสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อรับรางวัล ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนประจำปี2562. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่ง.
ญาณิศา เยี่ยมสิริวุฒิ. (2564).การจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
ไทยรัฐ วงษ์ทอง. (2563). การศึกษาปัญหาและแนวทางการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขต32.วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
นูรมาน พิทักษ์สุขสันต์. (2564).การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา ในอำเภอสายบุรีสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต 3. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏยะลา.
นิษฐา กลิ่นเอี่ยม. (2561). สภาพการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนวัดป่างิ้ว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหาร การศึกษา) มหาวิทยาลัยรังสิต.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาสน์.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย. (2560).ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134ตอนที่40ก,6เมษายน 2560.
รุ่งนภา สุขสำแดง. (2563).การศึกษาปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
วรรณา โฉมฉิน. (2562).การประเมินความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ บริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์.
ศิริ โชคสกุล. (2559). การดําเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์9 จังหวัด สมุทรปราการ. สมุทรปราการ: โรงพิมพ์คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). คู่มือการคัดเลือกสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรับรางวัลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประจำปี2563. ม.ป.ท.
สุธิดา พงษ์สวัสดิ์. (2561).การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนชะอำ คุณหญิงเนื่องบุรี. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร