สถานภาพการศึกษาวิจัยด้านหลักสูตร และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าศึกษาในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและมหาวิทยาลัยของรัฐ
คำสำคัญ:
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต, ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจสถานภาพองค์ความรู้ของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าศึกษาในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนและมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทย ศึกษาจากงานวิทยานิพนธ์และงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาไทย ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2557 ถึงปี พ.ศ. 2566 โดยใช้รูปแบบการวิจัย เป็นการวิเคราะห์เนื้อหา ด้วยวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ
ผลการวิจัยพบว่า แนวโน้มการศึกษาวิจัยด้านหลักสูตรและปัจจัยที่ส่งผลต่อการศึกษาในหลักสูตรตลอดระยะเวลา 10 ปี มีงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ทั้งของภาคเอกชนและภาครัฐที่ตีพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาไทยทั้งหมด 27 เรื่อง ประกอบไปด้วยงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 9 เรื่อง และงานวิจัยของมหาวิทยาลัยของรัฐ 18 เรื่อง โดยพบว่า มีลักษณะงานวิจัยในรูปแบบงานวิจัยทั่วไปของอาจารย์และนักวิชาการมากกว่าวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา ซึ่งหัวข้อการศึกษาวิจัยส่วนใหญ่ มุ่งเน้นการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าศึกษาในหลักสูตร มุ่งเน้นการศึกษาแนวโน้ม ทิศทาง การรับรู้ ความพึงพอใจ และการพัฒนาหลักสูตรเป็นสำคัญ ประเภทของการวิจัยโดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ รองลงมาคือ การวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยแบบผสานวิธี ตามลำดับ อีกทั้งผู้วิจัยได้ข้อค้นพบภาพรวมของประเภทการวิจัยและรูปแบบการวิจัย ดังนี้ 1. ประเภทของ การวิจัยเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการใช้รูปแบบของการวิจัยเชิงบรรยายหรือการวิจัยเชิงพรรณนา รองลงมาคือ รูปแบบการวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ และการวิจัยเชิงประเมินผล 2. ประเภทของการวิจัย เชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการใช้รูปแบบการวิจัยเป็นการสัมภาษณ์เจาะลึก รองลงมาคือ การวิเคราะห์ เนื้อหาการวิจัยเชิงบรรยาย การสนทนากลุ่ม การวิจัยเอกสาร และการวิจัยเชิงประเมินผล ตามลำดับ 3. ประเภทของการวิจัยแบบผสานวิธี มุ่งเน้นการใช้รูปแบบการวิจัยเชิงบรรยาย รองลงมาคือ การวิจัยเอกสาร การสนทนากลุ่ม การศึกษาแนวโน้ม การวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ การวิเคราะห์เนื้อหา การสัมภาษณ์เจาะลึก และการวิจัยเชิงทดลอง ตามลำดับ สำหรับผลการแจกแจงปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าศึกษาในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต พบว่า งานวิจัยมุ่งศึกษาปัจจัยด้านหลักสูตรมากที่สุด รองลงมาคือ ปัจจัยด้านความมุ่งหมายทางการศึกษาอีกทั้งยังพบว่า หากมีการให้ทุนการศึกษาอย่างเพียงพอ การพิจารณาความสนใจส่วนบุคคลและรายได้ของครอบครัว ปัจจัยด้านศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสังคม และการรับรู้ข้อมูลการสมัครของครูแนะแนว จะส่งผลให้เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดสินใจเข้าศึกษาในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กัญญ์ณณัฐ อนุรักติพันธุ์. (2561). หลักการสื่อสารการตลาด. (พิมพ์ครั้งที่ 1). นนทบุรี: ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ดวงฤทัย แก้วคำ และวิมลพรรณ อาภาเวท. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตดุสิต. วารสารวิชาการเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มทร.พระนคร, ปีที่ 1 (ฉบับที่ 2), 42-49.
ทิพย์สิริ กาญจนวาสี และศิริชัย กาญจนวาสี. (2564). วิธีวิทยาการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: พิมพ์ทันใจ.
บุบผา เมฆศรีทองคำ และอรอุมา เจริญสุข. (2564). บทเรียนด้านการผลิตบัณฑิตหลักสูตรนิเทศศาสตร์ในยุคดิจิทัล. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, ปีที่ 34 (ฉบับที่ 2), 171-196.
พนม คลี่ฉายา. (2558). แนวโน้มวิชาชีพ หลักสูตร และคุณสมบัติพึงประสงค์ของบัณฑิตสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์. วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา, ปีที่ 8 (ฉบับที่ 2), 31-53.
มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน. (2566). ประเภทของสถาบันอุดมศึกษาในปัจจุบัน. สืบค้นเมื่อ 28 ส.ค. 2566. จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php
สารานุกรมเสรี. (2566). สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 28 ส.ค. 2566. จาก https://th.wikipedia.org/
สุวิมล ติรกานันท์. (2557). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิชัย แย้มหลั่งทรัพย์. (2560). โครงการความพึงพอใจของนิสิตนิเทศศาสตร์ต่อการเรียนการสอน ในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต ปรับปรุง 2544 และความพึงพอใจของหน่วยงาน ต่อนิสิตนิเทศศาสตร์ที่ไปฝึกงานประจำปีการศึกษา 2559. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
อารี พันธ์มณี. (2542). จิตวิทยาการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: เลิฟ แอนด์ เฟรส. เอกรงค์ ปั้นพงษ์ และพิชญาพร ประครองใจ. (2563). การประเมินผลหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (สทมส.), ปีที่ 26 (ฉบับที่ 3 กรกฎาคม-กันยายน), 97-111.
อวยพร พานิช และคณะ. (2564). ทิศทางวิชาชีพ แนวโน้มและความคาดหวังในการศึกษาต่อหลักสูตรการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ในยุคโลกพลิกผัน. วารสารสหวิทยาการสังคมศาสตร์และการสื่อสาร, ปีที่ 4 (ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม).
Assarroudi, A., Nabavi, F. H., Armat, M. R., Ebadi, A., & Vaismoradi, M. (2018). Directed qualitative content analysis: the description and elaboration of its underpinning methods and data analysis process. Journal of Research in Nursing. doi: https://doi.org/10.1177/1744987117741667
Best, J.W., and Kahn, J.V. (1993). Resarch in Education. (7th ed.). Bostton: Allyn and Bacon.
Hsieh, H-F., & Shannon, S. E. (2005). Three Approaches to Qualitative Content Analysis. Qualitative Health Research, 15(9), 1277-1288.
Irvin J. Lehmann., & William A. Mehrens. (1971). Educational Research: Readings in Focus. New York: Holt Rinehart and Winston, Inc.
Majumdar, R. (2010). Consumer Behavior. Insights from Indian Market. New Delhi: PHL Learning.
Marvin C. Alkin, Christina A. Christie. (2023). Evaluation Roots: Theory Influencing Practice. (3th ed.). New York: The Guiford Press, A Division of Guiford Publication, Inc.
White, M. D., & Marsh, E. E. (2006). Content Analysis: A Flexible Methodology. Library Trends, 55(1), 22-45.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร