แนวทางการพัฒนาการคิดเชิงบวกสำหรับสามเณรวัดเขาบุญมีดาราราม ตามหลักจริต 6

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา แนวทางการพัฒนาการคิดเชิงบวกสำหรับสามเณรวัดเขาบุญมีดาราราม ตามหลักจริต 6 เป็นการบูรณาการระหว่างศาสตร์ คือ หลักการคิดเชิงบวก กระบวนการในการคิดและผลที่เกิดจากการคิดของบุคคลอันเกิดจากการมีรูปแบบการรับรู้ และการรู้คิดไปในทิศทางที่ดีเชื่อในความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ บนพื้นฐานความเป็นจริง หลักการพัฒนาความคิดของเอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ประกอบด้วย การมุ่งเน้นแสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูลเบื้องต้น และไม่ต้องการความคิดเห็น ตัวแทนของข้อเท็จจริง การมุ่งเน้นความรู้สึก ไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ พูดตรงไปตรงมา ตัวแทนของอารมณ์และความรู้สึก การมุ่งเน้นการแสวงหาจุดด้อย ข้อเสีย หรือปัญหาอุปสรรค แบบต้องมีเหตุผลประกอบ จนมองเห็นข้อบกพร่อง ตัวแทนของความระมัดระวัง การมุ่งเน้นการเห็นข้อบกพร่อง สิ่งที่เป็นประโยชน์และข้อมูลเชิงบวก ตัวแทนของการแสวงทางเลือก การมุ่งเน้นแสวงหาความคิดใหม่ๆ ความคิดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ตัวแทนของความริเริ่มสร้างสรรค์ และการมุ่งเน้นความคิดรวบยอด จนเกิดความชัดเจน เพื่อยุติความขัดแย้ง ตัวแทนของการควบคุมความคิดทั้งหมด และหลักจริต 6 ได้แก่ ราคจริต, โทสจริต, โมหจริต, สัทธาจริต และพุทธิจริต เพื่อใช้ในการส่งเสริมการคิดและการสอนที่ดีขึ้น จึงได้มาซึ่งกระบวนการส่งเสริมตามบุคลิกภาพของบุคคล คือ ราคจริต ควรมุ่งพัฒนาความรู้สึกในการเรียนรู้ ไม่ชอบอะไรที่ต้องบังคับ โทสจริต ควรมุ่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ โมหจริต ควรมุ่งพัฒนาความชัดเจนในเป้าหมาย วิตกจริต ควรมุ่งพัฒนาความคิดเชิงบวก สัทธาจริต ควรมุ่งพัฒนาความคิดที่รอบครอบระมัดระวัง และพุทธิจริต ควรมุ่งพัฒนาการบริหารความคิดแบบเป็นระบบ ดังนั้นเมื่อผู้สอนได้ส่งเสริมผู้เรียนให้เหมาะสมตามบุคลิกภาพส่วนบุคคลแล้ว จะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น