https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jiret_2023 <p><strong>ISSN 2985-1394 (Online)</strong><br />รับตีพิมพ์และเผยแพร่บทความวิจัย (Research Article) และบทความวิชาการ (Academic Article) ในสาขาวิชาที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา การศึกษา การบริหารการศึกษา และสาขาวิชาอื่นๆ ในสหวิทยาการด้านพุทธศาสตร์ ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คณาจารย์นิสิต และนักวิจัยทุกสถาบัน <br /><br /><strong>การพิจารณาคัดเลือกบทความ<br /></strong>บทความแต่ละบทความที่ตีพิมพ์จะได้รับพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ (Peer Review) 2 แบบ คือ <br />แบบที่ 1 บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ จะได้รับพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างน้อย 2 ท่าน ต่อ 1 บทความ แบบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งไม่ทราบชื่อกันและกัน (Double Blind Peer Review) และได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนตีพิมพ์<br />แบบที่ 2 บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ จะได้รับพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างน้อย 3 ท่าน ต่อ 1 บทความ แบบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งไม่ทราบชื่อกันและกัน (Double Blind Peer Review) และได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนตีพิมพ์<br /><br />โดยผู้เขียนต้องแจ้งความประสงค์กับทางวารสารในขั้นตอนการส่งบทความ <br />กรณีผู้เขียนไม่แจ้งความประสงค์ ทางวารสารจะถือว่าเลือกแบบที่ 1 เท่านั้น<br /><br /><strong>กำหนดการเผยแพร่บทความ</strong> <br />กำหนดการเผยแพร่บทความ ปีละ 3 ฉบับ ดังนี้<br />ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน<br />ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม<br />ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม<br /><br /><strong>ภาษาที่รับตีพิมพ์ <br /></strong>รับบทความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ<br /><br /><strong>การตีพิมพ์บทความ<br /></strong>บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความในวารสารอย่างเคร่งครัด โดยอ้างอิงตามรูปแบบของ APA (นาม-ปี) รวมถึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารฯ และกำหนดความซ้ำของผลงานด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ไม่เกิน 25% ทั้งนี้ ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฯ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ โดยไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของวารสารฯ<br /><br /><strong>ค่าธรรมเนียม<br /></strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความวารสารวิจัยนวัตกรรมการศึกษาและเทคโนโลยี โดยวารสารมีนโยบายในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์ หลังจากบรรณาธิการพิจารณาความสมบูรณ์ของบทความเบื้องต้นแล้วเท่านั้น (เก็บเพียงครั้งเดียว) มี 2 แบบ ดังนี้<br />แบบที่ 1 ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน 2,000/บทความ<br />แบบที่ 2 ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน 3,000/บทความ</p> th-TH journal.jiret99@gmail.com (พระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน (บุดดาวงษ์), ผศ. ดร.) journal.jiret99@gmail.com (ดร.อรุณรัตน์ วิไลรัตนกุล) Thu, 20 Nov 2025 08:40:30 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jiret_2023/article/view/2968 <p>บทความนี้นำเสนอพุทธวิธีการพัฒนาสื่อนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาสำหรับผู้เรียนในศตวรรษ<br />ที่ 21 เนื่องจากว่า การจัดการเรียนรู้แบบดั้งเดิมที่เน้นการบรรยายและท่องจำกำลังเผชิญวิกฤตความท้าทาย ไม่สามารถตอบสนองต่อธรรมชาติของผู้เรียนยุคดิจิทัลได้ ส่งผลให้เกิดความเหินห่างระหว่างผู้เรียนกับแก่นธรรม และล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและสังเคราะห์หลักพุทธวิธีซึ่งเป็นกระบวนการสอนของพระพุทธเจ้าที่สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้สมัยใหม่ เพื่อนำมาเป็นกรอบแนวคิดในการออกแบบสื่อนวัตกรรม โดยเสนอเป็นแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) การใช้เรื่องราวเปรียบเทียบ (อุปมาอุปไมย) ที่มุ่งสร้างสื่อเชิงโต้ตอบให้ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์จำลอง 2) การสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะบุคคล และ 3) การสอนเป็นลำดับขั้น (อนุบุพพิกถา) ที่ออกแบบสื่อในรูปแบบเกมมิฟิเคชัน เพื่อสร้างเส้นทางการฝึกฝนตนเองอย่างเป็นระบบ พุทธวิธีดังกล่าวสามารถเปลี่ยนกระบวนทัศน์การเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาจากการเป็นผู้รับสารสู่การเป็นผู้ปฏิบัติ ทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและสอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อให้พระพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการบ่มเพาะปัญญาและคุณธรรมแก่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างยั่งยืน</p> พระมหาอภิชาติ ชยเมธี (ถาวร), ธนานพ เสนาชุม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิจัยนวัตกรรมการศึกษาและเทคโนโลยี https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jiret_2023/article/view/2968 Thu, 20 Nov 2025 00:00:00 +0700 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jiret_2023/article/view/3024 <p>บทความนี้เสนอกรอบแนวคิดในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเครือข่ายความร่วมมือสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดสมุทรปราการ โดยบูรณาการหลักพุทธธรรมเข้าไว้กับองค์ประกอบของภาวะผู้นำเชิงเครือข่ายสมัยใหม่ เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาที่เข้มแข็งและยั่งยืน บูรณาการหลักธรรมสำคัญ ได้แก่ พรหมวิหาร 4 (เมตตา, กรุณา, มุทิตา และอุเบกขา) เพื่อเสริมพื้นฐานทางใจและวัฒนธรรมองค์กรภายใน, สังคหวัตถุ 4 (ทาน, ปิยวาจา, อัตถจริยา และสมานัตตตา) เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกในการสร้างความไว้วางใจกับภาคีภายนอก และทิศ 6 เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ต่อยอดแนวคิด “บ้าน-วัด-โรงเรียน” (บวร) สร้างบทบาทผู้บริหารในฐานะกัลยาณมิตรเชื่อมประสานสรรพกำลังจากครอบครัว ชุมชน สถาบันศาสนา และภาคเอกชน สู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สภาพแวดล้อม และสุขภาวะของนักเรียนอย่างองค์รวม ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือกรอบแนวคิดปฏิบัติที่ช่วยให้ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถสร้างและรักษาเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาจนบรรลุความสำเร็จอย่างยั่งยืน</p> ศิรประภา นักทำนา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิจัยนวัตกรรมการศึกษาและเทคโนโลยี https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jiret_2023/article/view/3024 Thu, 20 Nov 2025 00:00:00 +0700