การเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษาด้วยรูปแบบการปรึกษาเชิงผสานเทคนิควิธี
คำสำคัญ:
การปรึกษาเชิงผสานเทคนิควิธี, สมรรถนะการปรึกษา, การปรึกษากลุ่ม, ครูที่ปรึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการให้การปรึกษาของครูที่ปรึกษา 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษา การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 พัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วย โปรแกรมการปรึกษากลุ่ม เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษาด้วยการปรึกษาเชิงผสานเทคนิควิธี และบทเรียนออนไลน์ เรื่อง สมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษา และระยะที่ 2 ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษา โดยใช้แบบวัดสมรรถนะการปรึกษาทั้งในระยะก่อนการทดลอง ระยะหลังการทดลอง และระยะติดตามผลกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 20 คน ทำการสุ่มอย่างง่ายเข้ากลุ่มทดลอง 1 กลุ่ม จำนวน 10 คน และกลุ่มควบคุม 1 กลุ่ม จำนวน 10 คน ซึ่งมีความสมัครใจในการเข้าร่วมการทดลอง และมีคะแนนสมรรถนะการปรึกษาตั้งแต่ระดับปานกลางลงมา สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเทคนิคการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบมีการวัดซ้ำแบบทางเดียว ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการให้การปรึกษาของครูที่ปรึกษา เป็นการผสมผสานเทคนิคการให้การปรึกษา ซึ่งเป็นการบูรณาการทางเทคนิคของทฤษฎีการให้การปรึกษา ประกอบด้วย การฟังอย่างตั้งใจและการรับรู้ การยอมรับ การเข้าใจ การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นจริงใจ การปรับความคิด การมอบหมายการบ้าน การพูดในใจ สํารวจตัวเอง การจินตนาการ และการปรับความคิดมีขั้นตอนการปรึกษา 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นนำ ขั้นดำเนินการ และขั้นยุติ ซึ่งประกอบด้วยการให้การปรึกษาทั้งหมด 10 ครั้ง ระยะเวลา ครั้งละ 60-90 นาที โดยครั้งที่ 1-2, 5, 8-10 เป็นการปรึกษากลุ่มแบบพบหน้า โดยครั้งที่ 3 และ 6 เป็นการปรึกษากลุ่มแบบพบหน้าและมีการศึกษาบทเรียนออนไลน์ด้วยตนเอง ครั้งที่ 4 และ 7 เป็นการปรึกษากลุ่มแบบพบหน้าและมีการฝึกปฏิบัติด้วยตนเองร่วมด้วย ซึ่งผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นเองและสอบถามความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ โดยใช้แบบตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา 2. ผลการใช้รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการให้การปรึกษาของครูที่ปรึกษาพบว่า 1) กลุ่มทดลองที่ได้รับรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษา มีสมรรถนะการปรึกษาของครูที่ปรึกษา ไม่แตกต่างกับกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับรูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการปรึกษาสำหรับครูที่ปรึกษา มีสมรรถนะการปรึกษาของครูที่ปรึกษา หลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง มีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ย .231 สมรรถนะการปรึกษาของครูที่ปรึกษาติดตามผลสูงกว่าก่อนทดลอง มีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีผลต่างค่าเฉลี่ย .213 ส่วนในระยะหลังการทดลองและติดตามผลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
กรกฎา นักคิ้ม. (2559). สมรรถนะครูที่ปรึกษาของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC เขตภาคกลาง. ศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 8(2). 88-102.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2559). เล็งฟื้น'นักจิตวิทยา'ในโรงเรียนช่วยดูแลเด็กที่มีปัญหาอารมณ์.
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2555). คู่มืออบรมแนะแนว โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พงษ์พันธ์ พงษ์โสภา. (2543). ทฤษฎีและเทคนิคการให้การปรึกษา. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา.
เพ็ญนภา กุลนภาดล. (2557). การพัฒนาสมรรถนะการให้การปรึกษาวัยรุ่นของอาจารย์ที่ปรึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดชลบุรี. การวัดผลการศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 20(2), 206-220.
พัชราภรณ์ ศรีสวัสดิ์. (2561). การศึกษาและพัฒนาการรับรู้ความสามารถในการให้คำปรึกษาของครูแนะแนว. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ ศรีนครินทรวิโรฒ, 19(1), 150-159.
ยุพาวดี เกริกกุลธร. (2561). การพัฒนาสมรรถนะครูที่ปรึกษาตามแนวคิดการมีสติและการเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน, สันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 6(4), 1541-1555.
เรียม ศรีทอง. (2554). การศึกษาและพัฒนาสมรรถภาพการให้บริการแนะแนวของครูที่ปรึกษา สำหรับนักเรียนวัยรุ่นที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงในครอบครัวของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพฯ. สืบค้นจาก http://www.dric.nrct.go.th.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤติ. สืบค้นจาก https://www.obec.go.th/archives/224878.
สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต. (2546). คู่มือการให้การปรึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
อาดัม นีละไพจิตร. (2553). การศึกษาและพัฒนาสมรรถนะการให้คำปรึกษากลุ่ม สำหรับครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม. (ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.
American Psychological Association. (n.d.). School psychology. Retrieved from http://www.apa.org/ed/graduate/specialize/school
Bandura, A. (1977). Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavior change. Psychological Review, 84, 191-215.
Corey, G. (2012). Theory and practice of group counseling. Canada: Brooks Cole.
Dwi, Y. P. S. (2018). Development model of professionalism guidance and counseling teacher. Advances in Social Science, 4(249), 257-260.
McClelland, D. C. (1973). Testing for competence rather than for intelligence. American Psychologist, 4(1), 427-450.
Spencer, L. & Spencer, S. (1993). Competency at work: Models for Superior Performance. New York. John Wiley and Sons.
Satir, V. (1988). The new people making. Palo Alto, CA: Science & Behavior.
Thorne, F. C. (2011). Principles of personality counseling: An eclectic viewpoint. Milton Keynes: Lightning source UK.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.