ผลการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้แนวคิดกรอบคิดติดยึดเติบโตที่มีต่อ พฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และการเคารพของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้สุขศึกษา, การจัดการเรียนรู้แนวคิดกรอบคิดติดยึดเติบโต, พฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์, การเคารพ, นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยการวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) มีวัตถุประสงค์ เพื่อ1) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และการเคารพก่อนและหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม 2) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และคะแนนการเคารพหลังการทดลองระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (purposive selection) สุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก (Simple random sampling) เป็นนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 60 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้แนวคิดกรอบคิดติดยึดเติบโต จำนวน 30 คน และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปกติจำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาโดยใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดกรอบคิดติดยึดเติบโต จำนวน 8 แผน มีค่าดัชนีความสอดคล้องรวม 0.87 และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และการเคารพ จำนวน 2 ฉบับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.94 และ 1 ตามลำดับ มีค่าความเที่ยง 0.86 และ 0.79 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนด้วยค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และการเคารพ กลุ่มทดลองหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และการเคารพ หลังการทดลองของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2564). โรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. https://ddc.moph.go.th/das/journal_detail.php?deptcode=das&publish=das
กรุงเทพธุรกิจ. (2564). "เพศศึกษา" ไทยก้าวหน้าหรือถอยหลัง เรื่องที่โรงเรียนอาจสอนไม่ครบ. สืบค้นจากhttps://www.bangkokbiznews.com/social/962091
พรรณภา ส่งแสงแก้ว (2562).การพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตในทักษะการสื่อสารด้านการพูดเพื่อการนำเสนอ 1. (ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต), มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น, ขอนแก่น
พระธีทัต กิตฺติวณฺโณ (2560). ศึกษาการเสริมสร้างพฤติกรรมการแสดงการเคารพของเยาวชนบ้านศิริพร ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ. วารสารธาตุพนมปริทรรศน์
มุทิตา อดทน. (2561). ผลของโปรแกรมการพัฒนากรอบความคิดเติบโตในนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาตอนปลาย. (ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต), มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี
รายงานสุขภาพคนไทย 2563. (2563). พฤติกรรมทางเพศ https://www.thaihealthreport.com/th/report_health.php?id=1
วชิราภรณ์ บุปผาชาติ และคณะ (2564, กรกฎาคม-ธันวาคม). การเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่แตกต่างกันที่มีต่อคุณลักษณะกรอบคิดติดยึดเติบโต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 13(2), 302- 317. สืบค้นจาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/suedureasearchjournal/article/view/252161/172605
วิชัย วงษ์ใหญ่ (2562, มกราคม-มิถุนายน). การจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างกระบวนการทางความคิดเพื่อการเติบโต. สิกขาวารสารศึกษาศาสตร์ 6(1), 52-60. สืบค้นจาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/sikkha/article/view/150041/132212
วิไลวรรณ เพชรเศรษฐ์, วัลภา สบายยิ่ง และจิระสุข สุขสวัสดิ์ (2562). ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้กรอบความคิดแบบเติบโตเพื่อพัฒนาการตั้งเป้าหมายทางการศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนขจรเกียรติศึกษา จังหวัดภูเก็ต. สืบค้นจากhttps://opac01.stou.ac.th/multim/thesis/2561/160924/fulltext_160924.pdf
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2563). ข้อค้นพบจาก PISA 2018 เกี่ยวกับกรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset). สืบค้นจาก https://pisathailand.ipst.ac.th/issue-2020-49/
สำนักข่าวไทย. (2565). เปิดสถิติหญิงไทยถูกละเมิดทางเพศ.-กระทำรุนแรง มากกว่า 7 คน/วัน. https://www.tcijthai.com/news/2022/3/current/12248
สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค. (2565). พยากรณ์โรคฯ. กรมควบคุมโรค ฉบับที่ 5/2565 https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=23335&deptcode=brc&news_views=283
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์. (2563). รายงานประจำปี 2563 สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์. https://rh.anamai.moph.go.th/th
สุภาพร สมบัติ (2565). การศึกษาความรอบรู้ด้านเพศวิถีศึกษาและทักษะชีวิตสำหรับวัยรุ่น อายุ 10 - 19 ปี (Sexuality Education Literacy and Life Skills Among Teenagers aged 10-19 years). สืบค้นจาก https://rh.anamai.moph.go.th/th/news-anamai/download/?did=211675&id=98256&reload=.
Dweck, C. S. (2006). Mindset: The new psychology of success. New York: Random House. Retrieved from https://docs.lib.purdue.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1013&context=giftedchildren
Dweck, C. S. (2012). Mindset: How you can fulfill your potential. New York: Constable & Robinson Limited.
World Health Organization (2020). Adolescent Pregnancy. Retrieved from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/adolescent-pregnancy
World Health Organization (2023). Sexually transmitted infections (STIs). Retrieved from https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sexually-transmitted-infections-(stis)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.