การพัฒนาโครงสร้าง องค์ประกอบ และตัวบ่งชี้สมรรถนะการวิจัยของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรทางด้านการศึกษา
คำสำคัญ:
สมรรถนะการวิจัย, นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา, หลักสูตรทางการศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาโครงสร้างและองค์ประกอบของสมรรถนะการวิจัย และ 2) พัฒนาตัวบ่งชี้สมรรถนะการวิจัยของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรทางการศึกษา ซึ่งมีการดำเนินการวิจัย 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การพัฒนาโครงสร้างและองค์ประกอบ ใช้การศึกษาเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก และการประชุมกลุ่มย่อย โดยใช้แบบสัมภาษณ์และประเด็นการสนทนากลุ่มย่อยเป็นเครื่องมือวิจัย ผู้ให้ข้อมูลคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการผลิตบัณฑิตและผู้ทรงคุณวุฒิ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา และระยะที่ 2 การพัฒนาตัวบ่งชี้ ใช้การศึกษาเชิงปริมาณในการประเมินคุณภาพตัวบ่งชี้ และใช้การศึกษาเชิงคุณภาพด้วยการสนทนากลุ่มย่อยในการสรุปตัวบ่งชี้ โดยมีแบบประเมินคุณภาพและประเด็นการสนทนากลุ่มย่อยเป็นเครื่องมือวิจัย ผู้ให้ข้อมูลคือผู้เชี่ยวชาญ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยายและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. โครงสร้างและองค์ประกอบของสมรรถนะการวิจัย ประกอบด้วย 1) สมรรถนะการวิจัยพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วย สมรรถนะหลัก และสมรรถนะการวิจัยเฉพาะสาขา ที่มีองค์ประกอบย่อย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ความรู้ ทักษะการปฏิบัติการวิจัย ทักษะทางปัญญา คุณลักษณะที่พึงประสงค์ และจริยธรรมในการวิจัย และ 2) สมรรถนะการวิจัยแบบบูรณาการ ที่มีองค์ประกอบย่อย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ การวิเคราะห์สภาพปัญหา การกำหนดคำถามและวัตถุประสงค์การวิจัย การออกแบบการดำเนินการวิจัย การดำเนินการวิจัย และการเขียนรายงานและการเผยแพร่ผลการวิจัย 2. ตัวบ่งชี้สมรรถนะการวิจัย ประกอบด้วย 1) สมรรถนะการวิจัยพื้นฐาน จำนวน 40 ตัวบ่งชี้ และ 2) สมรรถนะการวิจัยแบบบูรณาการ จำนวน 25 ตัวบ่งชี้ ผลการประเมินตัวบ่งชี้มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.20 – 5.00 โดยมีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด และผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าตัวบ่งชี้มีความถูกต้อง เหมาะสม ครอบคลุม และสามารถนำไปใช้ได้
เอกสารอ้างอิง
เจษฎาภรณ์ วิริยะสกุลธรณ์, จันทร์ชลี มาพุทธ, & สุวิชัย โกศัยยะวัฒน์. (2020). อนาคตภาพสมรรถนะพื้นฐานของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาไทย. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 15(2), 81–91.
ณรงค์วิทย์ แสนทอง. (2004). มารู้จัก competency กันเถอะ. กรุงเทพฯ: เอช อาร์ เซ็นเตอร์.
ปิยวรรณ บุญเพ็ญ, ยุทธนา ไชยจูกุล, & ดุษฎี โยเหลา. (2018). สมรรถนะวิจัยและตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยให้ประสบความสำเร็จ: กรณีศึกษานักวิจัยในมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ. วารสารเกษมบัณฑิต, 19(1), 73–88.
พิมพ์ปวีณ์ สุวรรณโณ, สมศักดิ์ ลิลา, & พงศ์เทพ จิระโร. (2017). การพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรถนะการวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคใต้. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 13(1), 79–95.
สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2004). Competency: เครื่องมือบริหารที่ปฏิเสธไม่ได้. Productivity, 9(53), 44–48.
Ain, C., Sabir, F., & Willison, J. (2019). Research skills that men and women developed at university and then used in workplaces. Studies in Higher Education, 44(12), 2346–2358. https://doi.org/10.1080/03075079.2018.1496412
Creswell, J. W., & Creswell, J. D. (2017). Research design: Qualitative, quantitative, and mixed methods approaches. SAGE.
George-Reyes, C., & Glasserman-Morales, L. (2021). Research competencies mediated by technologies: A systematic mapping of the literature. Education in the Knowledge Society, 22, e23897. https://doi.org/10.14201/eks.23897
Mayowski, C. A., Norman, M. K., & Kapoor, W. N. (2018). Assessing an assessment: The review and redesign of a competency-based mid-degree evaluation. Journal of Clinical and Translational Science, 2, 223–227. https://doi.org/10.1017/cts.2018.321
McClelland, D. C. (1973). Test for competence, rather than intelligence. American Psychologist, 28(1), 1–14. https://doi.org/10.1037/h0034092
Mustafa, E., Mohd Ariffin, N., Mohd Arshad, A. H., Mohamad, A. M., & Hanafiah, N. A. H. (2019). Roles of higher education institutions (HEIs) in producing holistic graduates. International Journal of Education, Psychology and Counseling, 4(32), 29–42. https://doi.org/10.35631/IJEPC.432004
Organization for Economic Co-operation and Development. (2019). The OECD framework for competencies in education and training (PISA). https://www.oecd.org/careers/competency_framework_en.pdf
Zlatkin-Troitschanskaia, O. (2021). Advances and perspectives of competence research in higher education: Report on the German KoKoHs program. International Journal of Chinese Education, 10(1). https://doi.org/10.1177/22125868211006205
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.