ตัวตนที่เป็นไปได้ของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดซ้ำในกระบวนการยุติธรรมของศาลเยาวชนและครอบครัว
คำสำคัญ:
การวิเคราะห์แก่นสาระเชิงสะท้อน, ตัวตนที่เป็นไปได้, การกระทำผิดซ้ำ, เด็กและเยาวชนบทคัดย่อ
การศึกษาเกี่ยวกับตัวตนที่เป็นไปได้ ซึ่งสะท้อนแรงจูงใจและเป้าหมายในชีวิตของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดซ้ำยังมีอยู่อย่างจำกัด ทั้งที่ข้อมูลเหล่านี้สามารถเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาแนวทางส่งเสริมศักยภาพและป้องกันการกระทำผิดซ้ำอย่างยั่งยืน งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ตัวตนที่เป็นไปได้ของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดซ้ำในกระบวนการยุติธรรมของศาลเยาวชนและครอบครัว โดยใช้การวิเคราะห์แก่นสาระเชิงสะท้อน (Reflexive Thematic Analysis) ผู้เข้าร่วมวิจัยประกอบด้วยเด็กและเยาวชนที่เคยกระทำผิดซ้ำ จำนวน 12 คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนด ข้อมูลถูกรวบรวมผ่านการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง โดยใช้การต่อเติมเรื่องราวและคำถามปลายเปิดในการสำรวจมุมมองและประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมวิจัย ผลการวิจัยพบว่า เด็กและเยาวชนที่กระทำผิดซ้ำระบุตัวตนที่เป็นไปได้ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยมี 3 แก่นสาระใหญ่ ได้แก่ (1) การมีความสามารถในการดูแลครอบครัว (2) ชีวิตที่เป็นอิสระจากการถูกจับกุมหรือคุมขัง และ (3) อิทธิพลทางสังคมนำไปสู่ตัวตนที่(ไม่)ต้องการ นอกจากนี้ ตัวตนที่เป็นไปได้ของเด็กและเยาวชนยังเชื่อมโยงกับความต้องการพื้นฐานทางจิตใจตามทฤษฎีการกำหนดตนเอง ได้แก่ ความสามารถ ความเป็นอิสระ และความสัมพันธ์ ผลการวิจัยสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญของครอบครัวและชุมชนในฐานะปัจจัยสนับสนุนที่เอื้อต่อการสร้างตัวตนเชิงบวก ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาแนวทางการให้บริการปรึกษาเชิงจิตวิทยาและการกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวและระบบสนับสนุนในชุมชน เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำได้อย่างยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน. (2563). รายงานสถิติคดี ประจำปี 2563. สืบค้นเมื่อจาก https://www.djop.go.th/storage/files/2/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5/year63-2.pdf
ดาราวรรณ รองเมือง, ยศพล เหลืองโมนภา, สุกัญญา ขันวิเศษ, และ ศิรดา วงษ์ระกา. (2562). อิทธิพลของการมองตนเองในอนาคตและระยะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและน้ำตาลสะสมในเลือดภายใต้การควบคุมอิทธิพลของความรู้เรื่องโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 12(2), 34–51.
ตะวันฉาย มิตรประชา. (2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกระทำความผิดซ้ำของเยาวชน เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเยาวชนภายหลังการปล่อยตัว. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 6(1), 34–46.
ปาริชาต รังคกูลนุวัฒน์. (2549). การพัฒนาแบบวัดแบบแผนภาพลักษณ์ปัจจุบันและแบบแผนภาพลักษณ์อนาคตสำหรับหญิงไทยวัยกลางคน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาโท). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์. (2561). การกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนในคดียาเสพติด. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 5(3), 23–30.
ศิริวรรณ กมลสุขสถิต. (2563). แนวทางในการป้องกันและแก้ไขการกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยอาศัยปัจจัยที่เป็นตัวทำนายทางด้านอาชญาวิทยา. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 7(1), 1–19.
ศูนย์ข้อมูลและสถิติกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน. (ม.ป.ป.). สถิติคดีปีปฏิทินทั่วประเทศ. สืบค้นเมื่อจาก https://doc.djop.go.th/public/cms_all_stat_cmsfccc.php
Bahr, S. J., Hoffmann, J. P., & Yang, X. (2005). Parental and peer influences on the risk of adolescent drug use. The Journal of Primary Prevention, 26(6), 529–551. doi:10.1007/s10935-005-0014-8
Braun, V., & Clarke, V. (2022). Thematic analysis: A practical guide. SAGE Publications Ltd.
Markus, H., & Nurius, P. (1986). Possible selves. American Psychologist, 41(9), 954–969. doi:10.1037/0003-066X.41.9.954
Muris, P. (2015). Guilt, shame, and psychopathology in children and adolescents. Child Psychiatry & Human Development, 46(2), 177–179. doi:10.1007/s10578-014-0488-9
Nagpaul, T., & Chen, J. (2019). Self-determination theory as a framework for understanding needs of youth at-risk: Perspectives of social service professionals and the youth themselves. Children and Youth Services Review, 99, 328–342. doi:10.1016/j.childyouth.2019.02.015
Newberry, A. L., & Duncan, R. D. (2001). Roles of boredom and life goals in juvenile delinquency. Journal of Applied Social Psychology, 31(3), 527–541. doi:10.1111/j.1559-1816.2001.tb02054.x
Oyserman, D., & Markus, H. R. (1990). Possible selves and delinquency. Journal of Personality and Social Psychology, 59(1), 112–125. doi:10.1037/0022-3514.59.1.112
Petrich, D. M. (2020). A self-determination theory perspective on human agency, desistance from crime, and correctional rehabilitation. Journal of Developmental and Life-Course Criminology, 6(3), 353–379. doi:10.1007/s40865-020-00141-9
Ryan, R. M., & Deci, E. L. (2000). The darker and brighter sides of human existence: Basic psychological needs as a unifying concept. Psychological Inquiry, 11(4), 319–338. doi:10.1207/S15327965PLI1104_03
Sapp, M. (2006). The strength-based model for counseling at-risk youths. The Counseling Psychologist, 34(1), 108–117. doi:10.1177/0011000005282370
Smith, E. J. (2006). The strength-based counseling model. The Counseling Psychologist, 34(1), 13–79. doi:10.1177/0011000005277018
Zeigler-Hill, V., & Shackelford, T. K. (Eds.). (2020). Encyclopedia of personality and individual differences. Springer International Publishing. doi:10.1007/978-3-319-24612-3
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.