Submissions

Login or Register to make a submission.

Submission Preparation Checklist

As part of the submission process, authors are required to check off their submission's compliance with all of the following items, and submissions may be returned to authors that do not adhere to these guidelines.
  • The submission has not been previously published, nor is it before another journal for consideration (or an explanation has been provided in Comments to the Editor). บทความนี้ยังไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หรือหากมีกรุณาอธิบายในข้อความส่งถึงบรรณาธิการ)
  • The submission file is in Microsoft Word document file format. บทความเตรียมในรูปแบบของไฟล์ Microsoft Word เท่านั้น
  • Where available, URLs for the references have been provided. มีการเขียนที่อยู่ URLs สำหรับเอกสารที่อ้างอิงจากอินเทอร์เน็ต
  • The text is single-spaced; uses a 16-point font; employs italics, rather than underlining (except with URL addresses); and all illustrations, figures, and tables are placed within the text at the appropriate points, rather than at the end. บทความพิมพ์แบบใช้ระยะห่างบรรทัดปกติ (single-spaced) ขนาดฟ้อนท์ตัวอักษร 16pt(ในภาษาไทย) และ 1 pt(ในภาษาอังกฤษ) ใช้ตัวเอนแทนการขีดเส้นใต้สำหรับสังกัดผู้นิพนธ์ (ยกเว้น ที่อยู่ URL) และ ระบุข้อมูล รูปวาด รูปภาพ และตาราง ในตำแหน่งในบทความ ตามข้อกำหนดของวารสาร
  • The text adheres to the stylistic and bibliographic requirements outlined in the Author Guidelines. บทความเตรียมตามข้อกำหนดของวารสารฯ และเขียนรูปแบบการอ้างอิง ตามคำแนะนำสำหรับผู้เขียน (Author Guidelines)
  • Please enter your phone number in "Comment for Editor" กรุณากรอกหมายเลขโทรศัพท์ของท่านในช่อง "ข้อความถึงบรรณาธิการ"

Research article

ขอบเขตการรับบทความวิจัย (Research Article)

บทความวิจัยที่รับพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารต้องเป็นผลงานที่มีความเป็นต้นฉบับและสร้างสรรค์ในเชิงวิชาการ โดยต้องอยู่ในขอบเขตดังนี้:

1. ขอบเขตเนื้อหา

1.1 งานวิจัยที่มีความสำคัญและมีคุณค่าในเชิงทฤษฎีหรือเชิงประยุกต์
1.2 งานวิจัยที่พัฒนาความรู้ในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุข และวิทยาศาสตร์

2. ลักษณะของบทความที่รับพิจารณา

2.1 เป็นผลงานวิจัยที่มีการออกแบบการศึกษาอย่างมีระบบและชัดเจน
2.2 มีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอผลการวิจัยที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2.3 มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
2.4 มีการอภิปรายผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของผลงาน

3. คุณสมบัติของบทความ

3.1 บทความต้องมีความสมบูรณ์ในด้านโครงสร้าง ได้แก่ บทนำ, วิธีการวิจัย, ผลการวิจัย, การอภิปรายผล และบทสรุป
3.2 มีการใช้ภาษาเขียนที่ชัดเจน ถูกต้อง และมีความสอดคล้องกับรูปแบบที่วารสารกำหนด
3.3 ไม่เคยเผยแพร่หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่น

4. ข้อกำหนดเพิ่มเติม

4.1 บทความต้องมีการตรวจสอบการลอกเลียนผลงาน (Plagiarism Check) โดยคะแนนความเหมือนจะต้องไม่เกิน 20%
4.2 หากบทความวิจัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือสัตว์ ต้องมีเอกสารยืนยันการผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

Academic article

1. ขอบเขตเนื้อหา

1.1 บทความที่มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ หรือขยายแนวคิด ทฤษฎี หรือหลักการในสาขาวิชานั้น ๆ
1.2 การทบทวนวรรณกรรมและการวิเคราะห์แนวโน้มการวิจัยในหัวข้อเฉพาะ
1.3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบแนวคิดหรือทฤษฎีในเชิงลึก
1.4 การนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติที่มีพื้นฐานมาจากงานวิจัยหรือหลักฐานเชิงประจักษ์

2. ลักษณะของบทความที่รับพิจารณา

2.1 บทความต้องเน้นการอธิบายหรือการอภิปรายเชิงลึกในประเด็นเฉพาะ โดยใช้หลักฐานและข้อมูลสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ
2.2 บทความอาจประกอบด้วยการวิพากษ์ ทบทวน หรือสร้างข้อถกเถียงเชิงวิชาการในหัวข้อเฉพาะ
2.3 มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน

3. คุณสมบัติของบทความ

3.1 บทความต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน ได้แก่ บทนำ, การอภิปรายหลักการหรือทฤษฎี, การวิเคราะห์, การอภิปรายผล, และบทสรุป
3.2 ใช้ภาษาเขียนที่ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสมกับหลักการเขียนเชิงวิชาการ
3.3 สอดคล้องกับรูปแบบการจัดทำบทความที่วารสารกำหนด

4. เกณฑ์การพิจารณา

4.1 บทความต้องมีความทันสมัย สอดคล้องกับประเด็นสำคัญในสาขาวิชานั้น ๆ
4.2 มีการอ้างอิงอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น APA, MLA, หรือ Chicago Style
4.3 ต้องผ่านการตรวจสอบการลอกเลียนผลงาน (Plagiarism Check) โดยคะแนนความเหมือนต้องไม่เกิน 20%

5. ข้อกำหนดเพิ่มเติม

5.1 หากบทความเกี่ยวข้องกับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายหรือการประยุกต์ใช้ในเชิงปฏิบัติ ผู้เขียนควรระบุผลกระทบหรือความสำคัญของข้อเสนอแนะนั้น ๆ
5.2 บทความที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือสัตว์ ควรมีการอ้างอิงถึงจริยธรรมในการวิจัย (ถ้ามี)

Review article

ขอบเขตการรับบทความปริทัศน์ (Review Article)

บทความปริทัศน์ (Review Article) ที่รับพิจารณาเพื่อตีพิมพ์จะต้องเป็นการรวบรวม วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากงานวิจัยหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องในหัวข้อเฉพาะ โดยมีขอบเขตดังนี้:


1. ขอบเขตเนื้อหา

1.1 การทบทวนวรรณกรรมในเชิงลึกเพื่อสรุปสถานะความรู้ในหัวข้อเฉพาะ
1.2 การวิเคราะห์แนวโน้มล่าสุดในสาขาวิชาที่กำหนด
1.3 การเปรียบเทียบแนวคิด ทฤษฎี หรือวิธีการในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
1.4 การเสนอแนะแนวทางการวิจัยในอนาคต หรือการชี้ให้เห็นช่องว่างความรู้ในหัวข้อดังกล่าว
1.5 การสังเคราะห์องค์ความรู้ที่มีอยู่เพื่อสร้างมุมมองใหม่หรือการประยุกต์ใช้


2. ลักษณะของบทความที่รับพิจารณา

2.1 ต้องเป็นบทความที่มีการสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น บทความวิจัย ตำรา หรือรายงานทางวิชาการ
2.2 มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ครบถ้วนและเหมาะสมตามมาตรฐานสากล
2.3 เนื้อหาต้องสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งในหัวข้อเฉพาะ หรือขยายมุมมองเดิมด้วยข้อมูลใหม่


3. คุณสมบัติของบทความ

3.1 บทความต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน ได้แก่:

  • บทนำ: ระบุความสำคัญและขอบเขตของการทบทวน
  • เนื้อหา: การวิเคราะห์หรือสังเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ
  • บทสรุป: สรุปผลการทบทวน พร้อมเสนอแนะทิศทางการวิจัยในอนาคต
    3.2 ใช้ภาษาเขียนที่ถูกต้อง ชัดเจน และมีความเป็นวิชาการ
    3.3 ต้องเน้นความถูกต้อง ความทันสมัย และความสมบูรณ์ของข้อมูล

4. เกณฑ์การพิจารณา

4.1 บทความต้องเป็นการทบทวนที่มีความลึกซึ้งและครอบคลุมในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
4.2 ต้องผ่านการตรวจสอบการลอกเลียนผลงาน (Plagiarism Check) โดยคะแนนความเหมือนต้องไม่เกิน 20%
4.3 มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น APA, MLA, หรือ Vancouver Style


5. ข้อกำหนดเพิ่มเติม

5.1 บทความควรระบุประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหา หรือข้อถกเถียงในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
5.2 หากเป็นบทความที่เน้นการวิเคราะห์เชิงนโยบาย ควรให้ข้อเสนอแนะที่มีพื้นฐานจากหลักฐานเชิงประจักษ์

Privacy Statement

The names and email addresses entered in this journal site will be used exclusively for the stated purposes of this journal and will not be made available for any other purpose or to any other party.