การสร้างความยั่งยืนด้านเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
คำสำคัญ:
การสร้างความยั่งยืน, เครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษา, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และนำเสนอแนวทางในการสร้างความยั่งยืนด้านเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บทความวิชาการนี้ผู้เขียนนำเสนอ เกี่ยวข้องกับ 1) แนวคิดเรื่องเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษา 2) การบริหารจัดการเครือข่ายร่วมมือทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานำไปสู่ความยั่งยืน และ 3) ศึกษาปัจจัยและเงื่อนไขที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ พบว่า แนวทางการสร้างความยั่งยืนด้านเครือข่ายความร่วมมือทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 1) กระบวนการบริหารจัดการเครือข่ายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งต้องอาศัยกลยุทธ์ 5 ประการ คือ การพัฒนาภาวะผู้นำเครือข่าย การสร้างระบบการสื่อสารที่เปิดกว้างและโปร่งใส การลงทุนในการสร้างทุนทางสังคม การพัฒนากลไกกำกับดูแลที่มีความยืดหยุ่นและเป็นธรรม และ การสร้างความสามารถในการพึ่งตนเองของเครือข่าย และ 2) ปัจจัยและเงื่อนไขที่เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการบริหารจัดการและส่งผลต่อความยั่งยืน คือ การมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมที่ชัดเจน ความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่เข้มแข็ง โครงสร้างการกำกับดูแลและภาวะผู้นำที่เหมาะสม การสื่อสารที่เปิดกว้างและมีประสิทธิภาพ ทรัพยากรที่เพียงพอและยั่งยืน การรับรู้ถึงผลประโยชน์ร่วมกันและคุณค่า และความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่น โดยองค์ความรู้ที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารและบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในการวางแผนและดำเนินการเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือให้มีความเข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืนต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2559). แนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2579. พริกหวานกราฟฟิค.
Agranoff, R., & McGuire, M. (2003). Collaborative public management: New strategies for local governments. Georgetown University Press.
Ansell, C., & Gash, A. (2008). Collaborative governance in theory and practice. Journal of Public Administration Research and Theory, 18(4), 543–571.
Brass, D. J., Galaskiewicz, J., Greve, H. R., & Tsai, W. (2004). Taking stock of organizational networks: Where have we been and where are we going? Academy of Management Journal, 47(6), 795–817.
Coleman, J. S. (1988). Social capital in the creation of human capital. American Journal of Sociology, 94(Supplement), S95–S120.
Fullan, M. (2011). Change leader: Learning to do what matters most. Jossey-Bass.
Hargreaves, A., & Shirley, D. (2009). The fourth way: The inspiring future for educational change. Corwin Press.
Klijn, E. H., & Koppenjan, J. F. M. (2000). Politicians and administrative power in the management of networks: A network perspective on four cases. Construction Management and Economics, 18(7), 809–820.
OECD. (2013). Synergies for better learning: An international perspective on research and innovation in education. OECD Publishing.
Provan, K. G., & Milward, H. B. (2001). Do networks really work? A framework for evaluating public-sector organizational networks. Public Administration Review, 61(4), 414–423.
Putnam, R. D. (1995). Bowling alone: America's declining social capital. Journal of Democracy, 6(1), 65–78.
Robinson, V. M. J., Hohepa, M., & Lloyd, C. A. (2009). School leadership and student outcomes: Identifying what works and why. Australian Council for Educational Research.
Smylie, M. A. (1997). Redistribution of expertise in successful elementary schools. Educational Administration Quarterly, 33(Suppl. 1), 150–179.
Spillane, J. P., Sherer, J. Z., & Shirrell, M. (2018). Leading in and across professional networks: A distributed perspective. Educational Management Administration & Leadership, 46(3), 399–415.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนวัตกรรมการวิจัยเพื่อสังคม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร