การคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
คำสำคัญ:
การคิด, การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์บทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มีความสำคัญต่อผู้เรียนเพราะมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน สร้างคุณลักษณะที่สำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนกลายเป็นบุคคลที่รักที่จะเรียนรู้ มีตรรกะ มีเหตุผล สามารถคิดไตร่ตรอง และแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมที่จะต่อยอดความรู้ใหม่ ๆ นำพาสังคมไปสู่โลกอนาคต นอกจากนี้ผู้สอนต้องมีลักษณะของการเป็นครูนักวิจัย โดยสรุปองค์ความรู้ใหม่ได้ดังนี้ ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) องค์ประกอบด้านการเข้าใจปัญหา (Understanding the Challenges) 2) องค์ประกอบด้านการสร้างสรรค์วิธีในการแก้ปัญหา (Generate Ideas) และ 3) องค์ประกอบด้านการเตรียมพร้อมสู่การแก้ปัญหา (Preparing for action) ซึ่งเกิดขึ้นได้จากกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดยมีขั้นตอนที่ผู้เขียนได้สังเคราะห์มาแล้วนั้นประกอบด้วย 5 ขั้นตอนดังนี้ 1) ระบุปัญหา 2) ระดมความคิด 3) เลือกวิธีการในการแก้ปัญหา 4) วางแผนในการแก้ปัญหาและ 5) สรุปและยอมรับผล
เอกสารอ้างอิง
Eberle, B., & Stanish, B. (1996). CPS for kids: A resource book for teaching creative problem-solving to children: Routledge.
Isaksen, S. G. (1995). On The Conceptual Foundations of Creative Problem Solving: A Response to Magyari‐Beck. Creativity and Innovation management, 4(1), 52-63.
Isaksen, S. G., Dorval, K. B., & Treffinger, D. J. (1994). Creative approaches to Problem solving. Dubuque, Iowa: Kendall/Hunt.
Isaksen, S. G., Dorval, K. B., & Treffinger, D. J. (2011). Creative approaches to problem solving: A framework for innovation and change: Sage Publications.
Laura, L. and Sharan, B. (2002) “E-mentoring: Using Computer Mediated Communication to Enhance the Mentoring Process.” Innovation Higher Education, 26(3), 211-227.
National Research Council. (2012). A framework for K-12 science education: Practices ,crosscutting concepts, and core ideas. The National Academies Press: Washington, DC.
OECD. (2016), Global competency for an inclusive world. Retrieved November 16, 2024, from https://www. oecd.org/education/Global-competency-for-an-inclusive-world.pdf
Osborn, A. F. (1963). Applied imagination; principles and procedures of creative problem-solving: principles and procedures of creative problem-solving: Scribner.
Torrance, E. P. (1962). Guiding creative talent. NJ: Prentice-Hall.
Torrance, E. P. (1988). The nature of creativity as manifest in its testing. The nature of creativity, 43-75.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ :กระทรวงฯ.
นงนุช เอกตระกูล. (2560). การพัฒนาโปรแกรมเพิ่มพูนประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และความสุขในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ). http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Ed_SLM/Nongnuch_E.pdf
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). (2554). กรอบโครงสร้างการประเมินผลนักเรียนโครงการ PISA 2009. กรุงเทพมหานคร: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2558). คู่มือจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของสกสค.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2561). รายงานประจำปี 2561. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). https://www.niets.or.th/uploads/content_pdf/pdf_1571281594.pdf
สิทธิชัย ชมพูพาทย์. (2554). การพัฒนาพฤติกรรมการเรียนการสอนเพื่อการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของครูและนักเรียนในโรงเรียนส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ. ด้านวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเชิงวิพากษ์. ปริญญานิพนธ์ กศ.ด. (สาขาวิชาวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์). กรงุเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2561). ข้อมูลจากระบบตรวจติดตามและประเมินผล. ระบบสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ http://sp.moe.go.th/spinfo/?module=policy1_3
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร