การขยายผลการพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก ที่สอดคล้องกับสมรรถนะเด็กปฐมวัยและเหมาะสมกับทุกสังกัดแบบอิงพื้นที่เป็นฐาน โดยการมีส่วนร่วมจากภาคีหุ้นส่วนทางการศึกษา
คำสำคัญ:
หลักสูตรการพัฒนาครู, อิงพื้นที่เป็นฐาน, ภาคีหุ้นส่วนทางการศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการของครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก ในการพัฒนาสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอน 2) เพื่อพัฒนาหลักสูตรการพัฒนาครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก ที่สอดคล้องกับสมรรถนะเด็กปฐมวัยและเหมาะสมกับทุกสังกัดแบบอิงพื้นที่เป็นฐานโดยการมีส่วนร่วมจากภาคีหุ้นส่วนทางการศึกษา และ 3) เพื่อประเมินคุณภาพและประสิทธิผลของหลักสูตรการพัฒนาครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก ที่สอดคล้องกับสมรรถนะเด็กปฐมวัยและเหมาะสมกับทุกสังกัดแบบอิงพื้นที่เป็นฐานโดยการมีส่วนร่วมจากภาคีหุ้นส่วนทางการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็กในจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 40 คน ประกอบด้วย ครูปฐมวัยและ ครูผู้ช่วย จำนวน 30 คน และผู้ดูแลเด็ก จำนวน 10 คน ได้มาจากการเลือกแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ความต้องการในการพัฒนาครู 2) แบบประเมินคุณภาพหลักสูตรการพัฒนาครูปฐมวัย ที่สอดคล้องกับสมรรถนะเด็กปฐมวัยและเหมาะสมกับทุกสังกัดแบบอิงพื้นที่เป็นฐานโดยการมีส่วนร่วมจากภาคีหุ้นส่วนทางการศึกษา 3) แบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนการสอนของครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็กที่มีต่อกิจกรรมในหลักสูตรฯ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) ครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก มีความต้องการในการพัฒนาสมรรถนะ ด้านการจัดการเรียนการสอนของตนเองมากที่สุด 2 ด้าน คือ สมรรถนะด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย และสมรรถนะด้านสื่อและนวัตกรรม 2) ผลการประเมินคุณภาพของหลักสูตรฯ พบว่า คะแนนเฉลี่ยคุณภาพของหลักสูตรในภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด (M = 4.59, S.D. = 0.55) 3) ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอนของครูปฐมวัย ครูผู้ช่วย และผู้ดูแลเด็ก ก่อนและหลังการอบรมในหลักสูตรฯ พบว่า ในภาพรวมหลังการอบรม (M = 4.85, S.D. = 0.46) สูงกว่าก่อนการอบรม (M = 4.45, S.D. = 0.64) และ 4) ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการอบรมในหลักสูตรฯ พบว่า ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.63, S.D. = 0.56)
References
คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา. (2562). แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
จุฬากรณ์ มาเสถียรวงศ์. (2560). โครงการประสานงานวิจัยและพัฒนาการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่. สถาบันรามจิตติ.
โชติกา กุณสิทธิ์ พจมาน ชำนาญกิจ และสำราญ กำจัดภัย. (2563). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มสมรรถนะประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์บนพื้นฐานการเรียนรู้แบบใช้สมองสำหรับครูปฐมวัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1. Journal of Buddhist Anthropology, 5(3): 402–417.
ยูนิเซฟประเทศไทย. (2563). รายงานสถานการณ์เด็กในประเทศไทย พ.ศ. 2563. ยูนิเซฟประเทศไทย.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562. เล่ม 136 ตอนที่ 56 ก, หน้า 1-28.
วิไลวรรณ กลิ่นถาวร และศิริพร วงศ์ตาคำ. (2565). การพัฒนารูปแบบการอบรมโดยใช้ชุมชนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบลงมือกระทำสำหรับครูปฐมวัย. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 14(3): 232-47.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). การศึกษาสภาพการผลิตและพัฒนาครูปฐมวัยในสถาบันอุดมศึกษาของไทย. พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี. (2563). รายงานสถานการณ์ทางวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี. สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี. (2563). แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. 2563-2565. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). รายงานการพัฒนาเด็กปฐมวัย. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สุชาดา จิตกล้า สุดา เจ๊ะอุมา จรุงใจ มนต์เลี้ยง และสุทธิชา มาลีเลศ. (2566). ของเล่นจากวัสดุในท้องถิ่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาวัง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย (สพบท.), 5(4): 1-13.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี. (2563). รายงานผลการดำเนินงานโครงการสุพรรณบุรี: เมืองแห่งการเรียนรู้. องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี.
Darling-Hammond, L., Hyler, M. E., & Gardner, M. (2017). Effective teacher professional development. Learning Policy Institute.
Dong, C., Cao, S., & Li, H. (2020). Young children's online learning during COVID-19 pandemic: Chinese parents' beliefs and attitudes. Children and Youth Services Review, 118: 105440.
Garrison, D. R., Anderson, T., & Archer, W. (2021). Online learning in the wake of COVID-19: Perspectives from early childhood educators. Educational Technology Research and Development, 69(1): 317-321.
Gay, G. (2018). Culturally responsive teaching: Theory, research, and practice, (3rd ed.). Teachers College Press.
Hargreaves, A., & O'Connor, M. T. (2018). Collaborative professionalism: When teaching together means learning for all. Corwin Press.
Hu, X., Chiu, M. M., & Li, H. (2021). Online learning challenges for young children during COVID-19: A systematic review. Early Education and Development, 32(8): 1112-1127.
Kim, J., & Smith, K. (2020). Early childhood education in the time of COVID-19: The importance of human interaction for holistic development. Young Children, 75(4): 15-21.
Kolb, D. A. (2014). Experiential learning: Experience as the source of learning and development, (2nd ed.). Pearson Education.
Mishra, P., & Koehler, M.J. (2016). Technological pedagogical content knowledge: A framework for teacher knowledge. Teachers College Record, 118(4): 1-38.
Yoshikawa H, Wuermli AJ, Britto PR, Dreyer B, Leckman JF, Lye SJ, Ponguta LA, Richter LM, Stein A. (2020). Effects of the Global Coronavirus Disease-2019 Pandemic on Early Childhood Development: Short- and Long-Term Risks and Mitigating Program and Policy Actions. J Pediatr. 223:188-193. doi:10.1016/j.jpeds.2020.05.020.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.