รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูผ่านการนิเทศเชิงรุกและ เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อยกระดับผลลัพธ์เชิงคุณภาพ ของผู้เรียนในกลุ่มอำเภอเชียงม่วน
คำสำคัญ:
การพัฒนาสมรรถนะครู, การนิเทศเชิงรุก, เครือข่ายความร่วมมือ, คุณภาพของผู้เรียนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูผ่านการนิเทศเชิงรุกและเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อยกระดับผลลัพธ์เชิงคุณภาพของผู้เรียนในกลุ่มอำเภอเชียงม่วน ใช้วิธีวิจัยและพัฒนา 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับพัฒนารูปแบบฯ โดยการศึกษาแนวทางจากการวิเคราะห์เอกสาร และการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 9 คน การศึกษาสภาพที่เป็นจริง สภาพที่ควรจะเป็น และความต้องการจำเป็น ประชากรที่เป็นผู้บริหารและครูในกลุ่มอำเภอเชียงม่วน รวม 12 โรงเรียน ปีการศึกษา 2564 จำนวน 60 คน สรุปการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) การสร้างและตรวจสอบรูปแบบตามมาตรฐานความถูกต้องและมาตรฐานความเป็นไปได้ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน 3) การศึกษาผลการใช้รูปแบบกับผู้บริหารสถานศึกษาและครู สถานศึกษากลุ่มอำเภอเชียงม่วน จำนวน 12 โรงเรียน ที่ปฏิบัติงานในปีการศึกษา 2566 โดยการประเมินความรู้และความเข้าใจของผู้รับนิเทศ สมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ของครู และผลลัพธ์เชิงคุณภาพของผู้เรียน 4) การประเมินรูปแบบตามมาตรฐานความเหมาะสมและความเป็นประโยชน์กับคณะผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครูในสถานศึกษากลุ่มอำเภอเชียงม่วน จำนวน 12 โรงเรียน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในปีการศึกษา 2566 และ 5) การเผยแพร่รูปแบบเพื่อประเมินการยอมรับกับผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ประสบการณ์และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผ่านการทดลองใช้รูปแบบ จำนวน 15 ท่าน
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูผ่านการนิเทศเชิงรุกและเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อยกระดับผลลัพธ์เชิงคุณภาพของผู้เรียนในกลุ่มอำเภอเชียงม่วน คือ รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูผ่านการนิเทศเชิงรุกและเครือข่ายความร่วมมือ (PIEC MODEL) เพื่อยกระดับผลลัพธ์เชิงคุณภาพของผู้เรียนในกลุ่มอำเภอเชียงม่วน มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ดังนี้ องค์ประกอบที่ 1 หลักการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการของรูปแบบ องค์ประกอบที่ 4 แนวทางการประเมินรูปแบบ องค์ประกอบที่ 5 เงื่อนไขความสำเร็จในการนำรูปแบบไปใช้
เอกสารอ้างอิง
กิตติศักดิ์ สุวรรณชัยรบ. (2567). การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนมัธยมวานรนิวาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสกลนคร. เสฏฐวิทย์ปริทัศน์. 4(2), น. 395–409.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2559). การวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2. (2565). รายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในเขตพื้นที่. https://www.pyopeo.com/report/operating-report-year/1471/
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2567). การพัฒนาการนิเทศการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567. https://www.esdc.name/esdc2022/pages/doc_download.php
สุวดี อุปปินใจ. (2565). การพัฒนาครูในพื้นที่ทุรกันดาร: แนวทางการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้มืออาชีพ (NPLCs). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Anderson, T., & Shattuck, J. (2012). Design-based research: A decade of progress in education research?. Educational Researcher. 41(1), pp. 16–25.
Danielson, C. (2007). Enhancing professional practice: A framework for teaching. Alexandria, VA: Association for Supervision and Curriculum Development.
Fullan, M. (2001). Leading in a culture of change. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2014). SuperVision and instructional leadership: A developmental approach. (9th ed.). New York: Pearson.
Guskey, T. R. (2000). Evaluating professional development. California: Corwin Press.
Hargreaves, A., & Fullan, M. (2012). Professional capital: Transforming teaching in every school. New York: Teachers College Press.
Hord, S.M. (2009) Professional learning communities: Educators work together towards a shared purpose. Journal of Staff Development. 30, pp. 40-43.
Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Lieberman, A., & Miller, L. (2011). Teacher leadership. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
Lieberman, A., & Wood, D. (2003). The work of the National Writing Project: Social practices in a network context. In F. Hernández & I. F. Goodson (Eds.), Social geographies of educational change (pp. 41–56). Springer.
Schunk, D. H. (2012). Learning theories: An educational perspective. (6th ed.). Boston, MA: Pearson.
Yarbrough, D. B., Shulha, L. M., Hopson, R. K., & Caruthers, F. A. (2011). The program evaluation standards: A guide for evaluators and evaluation users. California: SAGE Publications.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และคณาจารย์ท่านอื่น ๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง