ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในการพัฒนาการดำเนิน งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของศูนย์เครือข่าย พัฒนาคุณภาพการศึกษาแม่ต๋ำตาดควัน
คำสำคัญ:
ภาวะผู้นำ, ผู้บริหารสถานศึกษา, งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยสำคัญในการพัฒนา และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาแม่ต๋ำตาดควัน ประชากรจำนวน 59 คน เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีการจัดเรียงลำดับของความต้องการจำเป็น แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์เนื้อหาสำคัญตามประเด็น นำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการสนทนากลุ่ม เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาแม่ต๋ำตาดควัน ผลการศึกษาพบว่า สภาพปัจจุบัน โดยรวมอยู่ในระดับมาก (µ = 3.93) เมื่อพิจารณาเป็นรายขั้น พบว่าขั้นที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ขั้นการป้องกันและการแก้ปัญหา อยู่ในระดับมาก (µ = 4.02) สภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (µ = 4.36) เมื่อพิจารณาเป็นรายขั้น พบว่า ขั้นที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ขั้นการป้องกันและการแก้ปัญหา อยู่ในระดับมาก (µ = 4.42) ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมคือ บุคลากร เทคโนโลยี ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคคือ เงิน สิ่งแวดล้อม
แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาแม่ต๋ำตาดควันพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนและประยุกต์วิธีการดำเนินงานให้เป็นไปตามสถานการณ์ เพื่อสนับสนุนครูในการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองต่อประเด็นปัญหาของนักเรียนโดยการชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อการแก้ไขปัญหานักเรียนได้อย่างเป็นระบบ วางแผนกำหนดแนวทางที่มีความหลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครองถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรีย
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และคณาจารย์ท่านอื่น ๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง