การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามหลักพุทธจิตวิทยาเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน
คำสำคัญ:
พุทธจิตวิทยา, การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้, คุณธรรมจริยธรรม, นักเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และหลักพุทธจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน 2) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามหลักพุทธจิตวิทยา และ 3) ประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ดังกล่าวต่อการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา ดำเนินการเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง 2) การสร้างและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9 ท่าน และ 3) การทดลองใช้รูปแบบกับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 60 คน โดยใช้แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม แบบสอบถามความคิดเห็น และแบบสังเกตพฤติกรรมเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (𝑥̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลอง การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1. เพื่อศึกษาความรู้ แนวคิด ทฤษฎี และหลักพุทธจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน พบว่าหลักพุทธจิตวิทยาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพประกอบด้วย สติ สมาธิ และปัญญา โดยสติช่วยให้นักเรียนรู้เท่าทันอารมณ์และการกระทำ สมาธิช่วยให้จิตตั้งมั่นและควบคุมพฤติกรรมได้เหมาะสม ส่วนปัญญาช่วยให้เข้าใจสิ่งต่าง ๆ อย่างถูกต้องตามหลักเหตุผลและศีลธรรม อีกทั้งแนวคิดพุทธจิตวิทยายังเน้นการพัฒนาจิตใจผ่านจิตตภาวนาเพื่อส่งเสริมการรู้จักตนเองและปรับพฤติกรรมในทางที่ดี 2. เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ตามหลักพุทธจิตวิทยา พบว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นมี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) หลักพุทธจิตวิทยา คือ สติ สมาธิ และปัญญา 2) กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ตระหนักรู้ พิจารณา ปฏิบัติ สะท้อนผล และพัฒนา และ 3) บทบาทของครูและผู้เรียนที่เน้นการมีส่วนร่วม ครูทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ส่วนผู้เรียนมีบทบาทในการคิดและปฏิบัติด้วยตนเอง ผลการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ 9 ท่านพบว่ารูปแบบมีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด 3. เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้ดังกล่าว พบว่า นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 60 คนที่ได้รับการจัดกิจกรรมตามรูปแบบนี้มีคุณธรรมจริยธรรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยเฉพาะด้านความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย และความเมตตา นักเรียนมีสมาธิ ตั้งใจเรียน และสามารถสะท้อนคิดทางศีลธรรมได้ดีขึ้น ความพึงพอใจต่อรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเห็นว่ากระบวนการเรียนรู้ตามหลักพุทธจิตวิทยามีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และช่วยส่งเสริมการพัฒนาจิตใจและพฤติกรรมเชิงคุณธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2564–2579. สำนักนโยบายและแผนการศึกษา.
_______. (2566). นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานด้านการศึกษา พ.ศ. 2566. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
เกรียงศักดิ์ สังข์วรรณะ. (2563). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้เชิงพุทธเพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วารสารพุทธศาสน์ศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 10(2), 45–58.
บุญช่วย พรหมประทาน. (2566). การบูรณาการหลักพุทธธรรมในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณธรรมของเยาวชน. วารสารการศึกษาและพัฒนามนุษย์, 8(1), 23–36.
ป.อ. ปยุตฺโต (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์). (2558). พุทธจิตวิทยา: การศึกษาแห่งจิตและการรู้เท่าทันตนเอง. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
พุทธทาสภิกขุ. (2547). คู่มือพุทธจิตวิทยา. กรุงเทพฯ: ธรรมสภา.
สุภาพร มณีรัตน์. (2565). คุณธรรมและจริยธรรมของเยาวชนไทยในยุคดิจิทัล. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 45(3), 112–126.
Best, J. W., & Kahn, J. V. (2006). Research in Education (10th ed.). Boston: Pearson Education.
Borg, W. R., & Gall, M. D. (1989). Educational Research: An Introduction (5th ed.). New York: Longman.
Piaget, J. (1973). To Understand Is to Invent: The Future of Education. New York: Grossman.
Rahula, W. (1974). What the Buddha Taught. New York: Grove Press.
Rogers, C. (1983). Freedom to Learn for the 80s. Columbus, OH: Merrill.
Vygotsky, L. S. (1978). Mind in Society: The Development of Higher Psychological Processes. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Vygotsky, L. S. (1978). Mind in Society: The Development of Higher Psychological Processes. Cambridge, MA: Harvard University Press.