Journal of Lanna Societies https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jls <p> </p> <table border="0" cellspacing="1" cellpadding="5" align="center"> <tbody> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>ชื่อวารสาร</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">Journal of Lanna Societies</td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>ระยะเวลาเผยแพร่</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">4 ฉบับต่อปี (มีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม)</td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>e-ISSN</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">3027-6721</td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>รูปแบบการตีพิมพ์</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"><span class="style43">ออนไลน์</span></td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>หน่วยงาน</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">วัดเทพสุนทรินทร์</td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>ภาษา</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">ไทย และ อังกฤษ</td> </tr> <tr> <td class="style44" align="right" valign="middle" bgcolor="#FFFAF4"><strong>บรรณาธิการ</strong>:</td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD"> </td> <td class="journalInfo" bgcolor="#FDFDFD">พระอนุสรณ์ เรืองปัญญารัตน์, ผศ.ดร. </td> </tr> </tbody> </table> <p><strong>ขอบเขต </strong></p> <p><strong>Journal of Lanna Societies</strong> เป็นเวทีในการแบ่งปันความรู้ที่เจาะลึกภายในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย หรือเรียกรวมกันว่าล้านนา โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสังคมล้านนาซึ่งอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและสังคมวิทยา โดยมีหัวข้อที่สนใจพิเศษในประเด็นดังต่อไปนี้</p> <p><strong>1. พุทธศาสนาในสังคมล้านนา:</strong> บทบาทของพุทธศาสนาในการกำหนดโครงสร้างทางวัฒนธรรมและสังคมล้านนา รวมถึงการศึกษาวัดสำคัญ เทศกาลทางพุทธศาสนา และประเพณีสงฆ์</p> <p><strong>2. การท่องเที่ยวในวัฒนธรรมล้านนา</strong>: สำรวจว่าการท่องเที่ยวสมัยใหม่ส่งผลต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา เศรษฐกิจท้องถิ่น และโครงสร้างทางสังคมอย่างไร</p> <p><strong>3. สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในล้านนา:</strong> การวิจัยเกี่ยวกับเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม การจัดการน้ำ และการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนในชุมชนล้านนา</p> <p><strong>4. วัฒนธรรมและการเรียนรู้ในสังคมล้านนา:</strong> การตรวจสอบการผสมผสานอิทธิพลของชนพื้นเมือง ไทย พม่า และลาวในวัฒนธรรมล้านนารวมถึงการเรียนรู้หรือการส่งเสริมการศึกษาเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม</p> <p><strong>5. ประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</strong> เช่น สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การจัดการ ในพื้นที่ล้านนา</p> <p><strong>ลักษณะของบทความที่จะนำลงตีพิมพ์ </strong><br />1. บทความวิจัย (Research Article) <br />2. บทความวิชาการ (Academic Article) </p> วัดเทพสุนทรินทร์ ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ th-TH Journal of Lanna Societies 3027-6721 ภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหาร เทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jls/article/view/790 <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นข้อเสนอแนะของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และเพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาตามแนวคิดของการบริหารงานที่มีต่อภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) คือการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษากับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 367 คน โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณเป็นแบบสอบถาม แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ เพื่อหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และทำการทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One Way ANOVA) และการวิจัยเชิงคุณภาพได้ใช้เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์ โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key information) จำนวน 8 ท่าน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา (Content Analysis Technique)</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; <strong>ผลการวิจัยพบว่า </strong>ประชาชนมีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( <img title="\bar{x}" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\bar{x}">= 4.05, S.D. = 0.377) ประชาชนที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษาและสถานภาพ ที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ และมีแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำในการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ผู้ให้ข้อมูลหลักได้เน้นให้ผู้นำควรรู้หลักการในการปฏิบัติงาน ในการบริหารงานในองค์กร รวมถึง หลักเกณฑ์ ระเบียบในการบริหาร มีการนำเอาหลักธรรมที่เหมาะสมในการบริหารงานมาประยุกต์ใช้กับองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและประชาชน การรู้จักตนในการปฏิบัติงาน มีบทบาทในการเป็นผู้นำองค์กรและชุมชน ความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา รวมถึงเรียนรู้ที่จะปฏิบัติงานด้วยความซื่อตรง มีการวิเคราะห์ตนเองเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้ให้ทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน</p> มนูญ ศรีใจอินทร์ Copyright (c) 2024 Journal of Lanna Societies https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-08 2024-09-08 2 3 1 13 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้บัตรคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านป่าหุ่ง https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jls/article/view/795 <p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิซา ภาษาอังกฤษ</p> <p>เพิ่มเติม เรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เรื่อง My family ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านป่าหุ่ง โดยใช้บัตรคำ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านป่าหุ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จำนวน 16 คน ผู้วิจัยได้ทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนจัดการเรียนรู้<strong>, </strong>แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน <strong>, </strong>สถิติที่ใช้ในการศึกษาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test แบบ Dependent</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการวิจัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรื่อง my family ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียน บ้านป่าหุ่ง&nbsp; โดยใช้บัตรคำ คะแนนก่อนเรียนที่ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.475 คะแนนหลังเรียนที่ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.93 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 3.283 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา ภาษาอังกฤษ(เพิ่มเติม) เรื่อง my family ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านป่าหุ่ง หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับ 0.05</p> กันต์กนิษฐ์ สิทธิวงศา นพรัตน์ รัตนวงศ์ Copyright (c) 2024 Journal of Lanna Societies https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-08 2024-09-08 2 3 14 20 บทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชนตำบลวังธง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jls/article/view/882 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1. เพื่อศึกษาระดับบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักภาวนา 4 กับบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ 3.เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ การวิจัยแบบผสานวิธี ได้แก่ การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ จากการแจกแบบสอบถาม และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>1) ระดับบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ทั้ง 4 ด้าน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( &nbsp;= 3.61, S.D. = 0.63)</p> <p>2) หลักภาวนา 4 กับบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยภาพรวม มีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับสูงมาก (R = .894**)</p> <p>3) ปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับบทบาทของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีต่อการพัฒนาชุมชน ตำบลวังธง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พบว่า ยังขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกกฎระเบียบการดูแลรักษาความสงบภายในชุมชน ขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนภายในชุมชน ข้อเสนอแนะ พบว่า ควรลงพื้นที่สำรวจปัญหาของชุมชน ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ ประชาชนควรเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบ และรณรงค์ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เยาวชนในชุมชน</p> อารยา ยอดโอวาท สมจิต ขอนวงค์ สายัณห์ อินนันใจ Copyright (c) 2024 Journal of Lanna Societies https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-08 2024-09-08 2 3 21 28 กระบวนการและการพัฒนาผลงานผ้าทอกระเหรี่ยงบ้านค้างใจ https://so13.tci-thaijo.org/index.php/jls/article/view/816 <p>ผ้าทอเป็นอัตลักษณ์ของหัตถกรรมสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าให้มีความวิจิตร งดงาม ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นในการศึกษากระบวนการสร้างสรรค์ เรียนรู้เพื่อนำมาพัฒนาฝึมือรวมถึงทักษะการผลิตผลงาน ในปัจจุบันผ้าทอเป็นสิ่งที่มีคุณค่าซึ่งมีการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อนำไปต่อยอดเป็นสินค้าชุมชน โดยบทความนี้ได้ศึกษาและวิเคราะห์กระบวนการและการต่อยอดการสร้างสรรค์ผลงานผ้าทอกระเหรียงบ้านค้างใจ ตำบลแม่เกิ๋ง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ซึ่งมีการสืบสานและต่อยอดกระบวนการทอผ้าแบบกระเหรี่ยง รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานผ้าทอให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น</p> ปัญญา สุนันตา ปุญยวีร์ มงคลพิพัฒน์พร นิติพงษ์ กาวีวล Copyright (c) 2024 Journal of Lanna Societies https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2024-09-08 2024-09-08 2 3 29 37