วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธนบุรี (ฉบับบัณฑิตศึกษา)
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal
<p> <span class="fontstyle0">Journal of Humanities and Social Sciences Thonburi University (Graduate Studies) วารสารมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธนบุรี (ฉบับบัณฑิตศึกษา) รับตีพิมพ์ </span><span class="fontstyle2">บทความวิชาการ(Academic Article) บทความวิจัย (Research Article) </span><span style="font-size: 0.875rem;">E-ISSN: 2822-1273</span></p> <div>วารสารฯ เริ่มดำเนินการครั้งแรกในปี 2565 โดยความร่วมมือกันของหลักสูตรภายใต้คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธนบุรี เพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่แหล่งข้อมูลเชิงวิชาการแก่อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ทั้งภายในสถาบัน และต่างสถาบันที่ให้ความสนใจ</div> <div> </div> <div>มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่บทความวิจัยและบทความทางวิชาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ การจัดการ และการบัญชีทั่วไป เศรษฐศาสตร์ เศรษฐมิติ การเงินทั่วไป และสังคมศาสตร์ทั่วไป ของอาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา ทั้งภายในและภายนอกสถาบัน เป็นสื่อกลางและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการ ให้เกิดความก้าวหน้าทางวิชาการและเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพทางวิชาการของบุคลากรทั้งภายในและภายนอกสถาบัน</div>
มหาวิทยาลัยธนบุรี (Thonburi University)
th-TH
วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธนบุรี (ฉบับบัณฑิตศึกษา)
2822-1273
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
-
การศึกษาการใช้ประโยชน์และความพึงพอใจต่อกระบวนการดำเนินงานผลิตและเผยแพร่บทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/1908
<p>งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความพึงพอใจต่อกระบวนการดำเนินงานผลิตและเผยแพร่บทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม (2) ศึกษาการใช้ประโยชน์จากการเผยแพร่บทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม และ (3) ศึกษาอิทธิพลของปัจจัยด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการดำเนินงานผลิตและเผยแพร่บทความที่สามารถพยากรณ์การใช้ประโยชน์จากบทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากผู้เขียนและผู้อ่านบทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม ระหว่าง พ.ศ. 2563 - พ.ศ. 2566 ด้วยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายโดยส่งลิงก์แบบสอบถามผ่านระบบกลูเกิลฟอร์ม (Google form) ไปยังอีเมล์ของผู้ใช้บริการวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม รวมทั้งสิ้น 144 รายชื่ออีเมล์ จนได้รับการตอบกลับ จำนวน 100 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 69.44 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า 1) ความพึงพอใจต่อกระบวนการดำเนินงานผลิตและเผยแพร่บทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.33, S.D. = 0.38) โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความพึงพอใจในภาพรวมต่อวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม (ค่าเฉลี่ย = 4.47, S.D. = 0.50) ในระดับมาก 2) การใช้ประโยชน์จากบทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.30, S.D. = 0.39) โดยประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ เป็นแหล่งรวมผลงานวิชาการเพื่อพัฒนานโยบายสาธารณะ (ค่าเฉลี่ย = 4.39, S.D. = 0.49) ในระดับมาก โดยปัจจัยด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการดำเนินงานผลิตและเผยแพร่บทความที่สามารถพยากรณ์การใช้ประโยชน์จากบทความในวารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม ได้ที่ดีที่สุด ได้แก่ 1) คุณภาพทางวิชาการของวารสารมีความเหมาะสมและระบบการจัดการวารสารมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้นหรือมาตรฐานในระดับสากลได้ 2) กองบรรณาธิการมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน ได้ร้อยละ 38.8 (Adjusted R Square = 0.388)</p>
ณัฏฐนันท์ สุวงศ์ษา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
1
10
-
ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภค ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2036
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ระดับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด และระดับปัจจัยกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภคในจังหวัดฉะเชิงเทรา (2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาด ที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภคในจังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชากรที่ซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภคในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 385 คน เครื่องมือที่ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบสอบถามออนไลน์ (Online questionnaire) ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุน้อยกว่า 30 ปี สถานภาพโสด ระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000-25,000 บาท จำนวนสุนัขที่เลี้ยงจำนวน 2 ตัว ปริมาณอาหารที่ซื้อ 5 กิโลกรัม ซื้ออาหาร 1 ครั้งต่อเดือน และเลือกซื้ออาหารยี่ห้อ Smart Heart นอกจากนี้ผู้วิจัยพบว่า ระดับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด(4P’s) ด้านราคา ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านส่งเสริมการขาย และด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ตามลำดับ และระดับความคิดเห็นของกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภคในจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้านตระหนักถึงปัญหา/ความต้องการ ด้านพฤติกรรมหลังการซื้อ ด้านการตัดสินใจซื้อ ด้านการแสวงหาข้อมูล และด้านการประเมินทางเลือกตามลดำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปของผู้บริโภคในจังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p>
เชิดชัย บัณฑุเจษฏา
พิสมัย เหล่าไทย
ชูใจ สุภาภัทรพิศาล
เดชา พละเลิศ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
11
20
-
การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าโดยประยุกต์ใช้ ABC Analysis บริษัท วีกฤษฏิ์ โฮม แอนด์ ลิฟวิ่ง จำกัด
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2284
<p>การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการคลังสินค้า และ (2) ศึกษาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าของ บริษัท วีกฤษฏิ์ โฮม แอนด์ ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริการ และทำงานในคลังสินค้า ได้แก่ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงานคลังสินค้าที่ปฏิบัติงานจริง จำนวนทั้งสิ้น 9 คน เครื่องมือใช้เก็บข้อมูลคือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และการสังเกตแบบมีส่วนร่วม วิเคราะห์ปัญหาด้วยแผนผังก้างปลา ข้อมูลในการแบ่งกลุ่มสินค้าเป็นข้อมูลสินค้าที่จำหน่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ผลการศึกษาพบว่า สาเหตุของปัญหาเกิดจาก ไม่ทราบตำแหน่งสินค้าที่แน่นอน การจัดเก็บยังไม่เป็นระเบียบ อุปกรณ์เครื่องจักรทุ่นแรงมีไม่เพียงพอ และพื้นที่จัดเก็บสินค้ามีจำกัด แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าด้วยการแบ่งประเภทสินค้าคงคลังด้วยระบบ ABC Analysis ดังนี้ สินค้ากลุ่ม A มี 25 รายการ มูลค่าอยู่ที่ 28,525,400 บาท สินค้ากลุ่ม B มี 34 รายการ มูลค่าอยู่ที่ 8,083,790 บาท และสินค้ากลุ่ม C มี 41 รายการ มูลค่าอยู่ที่ 4,082,350 บาท ตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (ILPI) กิจกรรมที่ 6 การจัดการคลังสินค้า พบว่า (1) มิติด้านเวลา (ILPI6T) ระยะเวลาเฉลี่ยของการจัดเก็บก่อนปรับปรุง อยู่ที่ 4.57 วัน และหลังปรับปรุง อยู่ที่ 2.93 วัน (2) มิติด้านความน่าเชื่อถือ (ILPI6R) อัตราความแม่นยำของสินค้าก่อนปรับปรุง เท่ากับร้อยละ 82.34% และอัตราความแม่นยำของสินค้าคงคลังหลังการปรับปรุง เท่ากับร้อยละ 98.20% ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพของระบบการจัดการคลังสินค้า และการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น</p>
วุฒิชัย ชนเชี่ยว
ธนาวุฒิ สวัสดี
ธนภัสสร์ สวัสดี
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
21
35
-
ปัจจัยแรงจูงใจที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าทำในอุตสาหกรรมอาหารของพนักงาน Generation Z ในจังหวัดนครปฐม
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2297
<p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยแรงจูงและการตัดสินใจเลือกเข้าทำงานในอุตสาหกรรมอาหารของพนักงาน Generation Z ในจังหวัดนครปฐม (2) ศึกษาปัจจัยแรงจูงใจที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าทำงานในอุตสาหกรรมอาหารของพนักงาน Generation Z ในจังหวัดนครปฐม การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ กลุ่มพนักงานอุตสาหกรรมอาหารในจังหวัดนครปฐมที่มีอายุระหว่า 18 - 28 ปี จำนวน 385 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามออนไลน์ (Online questionnaire) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ระดับการศึกษาปริญญาตรี หรือเทียบเท่า รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000-20,000 บาทต่อเดือน มีประสบการณ์ทำงาน 1-3 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยแรงจูงใจ ด้านสวัสดิการและค่าตอบแทน ด้านลักษณะงาน การเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านโอกาสในการเจริญก้าวหน้า ด้านชื่อเสียงองค์กร และด้านค่านิยมในการทำงาน ตามลำดับ และความคิดเห็นของการตัดสินใจเลือกเข้าทำงานของพนักงาน Generation Z ใน จังหวัดนครปฐม ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ด้านชื่อเสียงองค์กร ด้านโอกาสในการเจริญก้าวหน้า ด้านสวัสดิการและค่าตอบแทน และด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าทำงานในอุตสาหกรรมอาหารของพนักงาน Generation Z ในจังหวัดนครปฐม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p>
พิทยา ริตศิลา
เสาวภา เมืองแก่น
กิตติพร พูลสวัสดิ์
สมภพ สิทธิธนานุโชติ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
36
45
-
แนวทางการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการร้านอาหาร อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2346
<p>การศึกษาแนวทางการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการร้านอาหาร อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบที่ส่งผลต่อศักยภาพของผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ (2) เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการร้านอาหาร เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง จากผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าผู้ใช้บริการ หน่วยงานภาครัฐ พนักงาน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการได้ใช้ส่วนประสมทางการตลาดในการบริหารจัดการร้านเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขาย ส่วนภาครัฐมีบทบาทในการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขอนามัยในการประกอบการร้านอาหาร และการกำจัดของเสียก่อนทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของส่วนรวม ซึ่งมีความสำคัญและยากในการบริหารจัดการ และนักท่องเที่ยวทั้งที่ตั้งใจมาร้านอาหารจากการบอกเล่าปากต่อปาก และการรีวิวบนสื่อโซเซียล และมาจากการเดินทางมาท่องเที่ยวและได้พบเจอร้านอาหารโดยบังเอิญ ให้ความสำคัญกับรสชาติอาหาร รูปลักษณ์อาหาร และความคุ้มค่ากับราคาที่ได้จ่ายไปกับค่าอาหาร</p>
พิมพ์พร เกษดี
วิศิษฎ์ บิลมาศ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
46
55
-
แนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริการของสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิส มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2406
<p class="s14">การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความคิดเห็นของผู้ใช้บริการที่มีต่อคุณภาพการบริการของสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสมหาวิทยาลัยธนบุรี และ (2) เสนอแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริการของสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสมหาวิทยาลัยธนบุรี การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานด้วยการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากการตอบแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่าง 400 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยผสานผลการวิจัยเชิงปริมาณและผลการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาจากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่าระดับความคิดเห็นของผู้ใช้บริการที่มีต่อคุณภาพการบริการของสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสมหาวิทยาลัยธนบุรี ให้ระดับความสำคัญกับคุณภาพการบริการทุกด้านในระดับมากที่สุด และแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริการของสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสมหาวิทยาลัยธนบุรีตามระดับความสำคัญ พบว่า (1) ด้านการเอาใจใส่ในการให้บริการ บุคลากรสำคัญยิ่ง มีความกระตือรือร้น ใส่ใจ ปฏิบัติต่อผู้ใช้บริการด้วยด้วยหัวใจ เต็มใจ และมิตรภาพ (2) ด้านความเชื่อมั่นในการให้บริการ บุคลากรมีความรู้ความสามารถสูง มีการตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์และสถานที่เป็นประจำ มีมาตรฐานความปลอดภัย มีระบบประกันกลุ่ม มีนักกายภาพดูแล ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยภายในสนาม (3) ด้านความเป็นรูปธรรมของการให้บริการ สนามฝึกซ้อมได้มาตรฐาน มีการจัดสรรโต๊ะให้เพียงพอต่อการใช้งาน พื้นสนามคุณภาพสูง อุปกรณ์ครบครันมาตรฐานสากล สภาพแวดล้อม จุดพักผ่อนสะอาด ปลอดภัย (4) ด้านการตอบสนองในการให้บริการ การจัดให้มีบุคลากรและทีมงานประจำสนามตลอดเวลา แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที มีระบบจัดการข้อร้องเรียนอย่างรวดเร็ว และ (5) ด้านความน่าเชื่อถือในการให้บริการ มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้ใช้บริการ จัดให้มีระบบประเมินทักษะให้กับผู้ใช้บริการโดยแบ่งเป็นระดับ A-D และบริการให้คำแนะนำด้านการฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพ สม่ำเสมอ เพื่อการพัฒนาสนามฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสศักยภาพสูงเป็นที่รู้จักมากขึ้น</p>
กชพร ห้องศรีปาน
เสาวภา เมืองแก่น
กมลวรรณ ศิริจันทร์ชื่น
เพียงเดือน เกิดอำแพง
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
56
68
-
การวิจัยเรื่องการศึกษากระบวนการขอมาตรฐานอาหารและยาผ่านการสื่อสารการตลาดบนบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดเพชรบูรณ์
https://so13.tci-thaijo.org/index.php/gdjournal/article/view/2354
<p>การศึกษามีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษากระบวนการขอมาตรฐานอาหารและยา (2) เพื่อถอดบทเรียนกระบวนการขอมาตรฐานอาหารและยาของวิสาหกิจชุมชน จังหวัดเพชรบูรณ์ และ (3) เพื่อศึกษากระบวนการการสื่อสารการตลาดบนบรรจุภัณฑ์ ในกลุ่มผู้บริโภคสินค้าวิสาหกิจชุมชน เป็นงานวิจัยแบบผสมผสาน ผู้วิจัยทำการเก็บข้อมูลจากการสังเกตแบบมีส่วนร่วม การวิจัยการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง โดยกำหนดประเด็นการสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้อาหารดี มาตรฐานอาหารปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ดังนั้นผลิตภัณฑ์ขิงแปรรูปที่จะขอ<a href="https://www.google.com/search?sca_esv=0ee86f0c7c7a6d43&rlz=1C1GCEA_enTH972TH972&cs=0&sxsrf=AE3TifMOQRXbk4nIFrKyMy4aN8F9ylajXg%3A1750483192401&q=%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2+%28%E0%B8%AD%E0%B8%A2.%29&sa=X&ved=2ahUKEwi5rdCG4oGOAxX-UWwGHVviAU0QxccNegQIBhAB&mstk=AUtExfBDtsSL2JaKSdkO_6ZCmQphTQHHOPOKpluVgdGym-L0vBSGv_e4hB6Fe3Cl0jaqo0_l6r0ToBp95W3MIEIb5Gziplk2xj-y_rCQAJ4Ks-7NwrfBaPnNJz9pjXkv0C4SX5aAE1YVka3oMfjv9Kx24hCn5zmYQvUTxujlfLltblV74NcRS8WR1HIk-poSlYvYepcYcRoxXW_i_oS4k1K9vpW5Rel6_J6xKDendxJ57NOzc6XlEBjAvIlV8mdmPQbRnsh9IUmNMc4ltt1elMaUcya7&csui=3">มาตรฐานอาหารและยา </a>ต้องผ่านกระบวนการขออนุญาตและขั้นตอนการขออนุญาตเพื่อให้มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ การแสดงฉลากที่ถูกต้อง และการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานการคัดแยกและทำลายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการผลิตภัณฑ์ ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของหลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ ปัจจัยขนาดของเครื่องจักรเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการผ่านการประเมิน ปัจจัยการจัดอบรมพนักงานเกี่ยวกับ GMP พนักงานหรือแรงงานในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยังขาดความรู้ความเข้าใจ จึงต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้ผ่านมาตรฐานด้านสุขลักษณะทางการผลิตอาหารอย่างเคร่งครัด งานวิจัยเชิงปริมาณ พบว่าข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าวิสาหกิจชุมชน มีความถี่จำนวน 1-2 ครั้งต่อเดือน ทัศนคติเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจซื้อสินค้าวิสาหกิจชุมชน โดยค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการตัดสินใจซื้อผ่านข้อมูลที่ปรากฏลงบนฉลากและบรรจุภัณฑ์ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.14 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.86 รองลงมา ด้านพฤติกรรมหลังการซื้อ โดยจะแนะนำสินค้าวิสาหกิจชุมชนให้กับผู้อื่นซื้อตาม และมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าวิสาหกิจชุมชนอีกครั้ง</p>
ณัฐณิชา อินทร์เพ็ญ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-25
2025-08-25
3 2
69
79