ผลกระทบของการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม และผลดำเนินงานทางการเงินที่มีต่อมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทในดัชนีความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และผลดำเนินงานทางการเงินที่มีต่อมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทในดัชนีความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้วิจัยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และทำการเก็บข้อมูลจากประชากรของบริษัทในดัชนีความยั่งยืนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 252 บริษัท โดยใช้ข้อมูลระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2567 กำหนดการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และใช้การวิเคราะห์ค่าสถิติเชิงพรรณนา, การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์, และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า ตัวแปรทางการเงินและการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมมีความสามารถในการอธิบายมูลค่าหลักทรัพย์ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามกำไรต่อหุ้น (EPS) มีผลเชิงลบต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) และอัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBITDA), อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) มีผลเชิงบวกต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการก๊าซเรือนกระจกมีผลเชิงลบต่ออัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) และการจัดการน้ำมีผลเชิงลบต่ออัตราส่วนมูลค่ากิจการต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EV/EBITDA) สรุปได้ว่า ทั้งตัวแปรทางการเงินและ ESG ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักในการกำหนดมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทไทย อาจเกิดจากนักลงทุนยังไม่ให้น้ำหนักกับข้อมูล ESG อย่างเต็มที่และมาตรฐานการเปิดเผยยังไม่สม่ำเสมอ งานวิจัยต่อไปควรพิจารณาปัจจัยธรรมาภิบาล ขนาดบริษัท และมาตรฐานการเปิดเผย ESG สากลเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการอธิบาย
Downloads
เอกสารอ้างอิง
บุญเลิศ จิตรมณีโรจน์, (2564). การพัฒนาแบบจำลองการให้คะแนน ESG สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทย. วารสารการเงินและการบัญชี, 13(2), 55–68.
พาณิภัค อรุณสดใส. (2563). การวิเคราะห์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
อโนทัย ตรีวานิช. (2552). สถิติธุรกิจ. พิมพ์ครั้งที่ 4. ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์.
Clark, G. L., Feiner, A., & Viehs, M. (2015). From the stockholder to the stakeholder: How sustainability can drive financial outperformance. Retrieved July 19, 2025. From https://doi.org/10.2139/ssrn.2508281
Eccles, R. G., Ioannou, I., & Serafeim, G. (2014). The impact of corporate sustainability on organizational processes and performance. Management Science, 60(11), 2835–2857. https://doi.org/10.1287/mnsc.2014.1984
Freeman, R. E. (1984). Strategic management: A stakeholder approach. Boston: Pitman.
Friede, G., Busch, T., & Bassen, A. (2015). ESG and financial performance: Aggregated evidence from more than 2000 empirical studies. Journal of Sustainable Finance & Investment, 5(4), 210–233. https://doi.org/10.1080/20430795.2015.1118917
Healy, P. M., & Palepu, K. G. (2001). Information asymmetry, corporate disclosure, and the capital markets: A review of the empirical disclosure literature. Journal of Accounting and Economics, 31(1-3), 405-440. https://doi.org/10.1016/S0165-4101(01)00029-8
Ioannou, I., & Serafeim, G. (2015). The impact of corporate social responsibility on investment recommendations: Analysts' perceptions and shifting institutional logics. Strategic Management Journal, 36(7), 1053–1081. https://doi.org/10.1002/smj.2260
Khan, M., Serafeim, G., & Yoon, A. (2016). Corporate sustainability: First evidence on materiality. The Accounting Review, 91(6), 1697–1724. https://doi.org/10.2308/accr.2016.91.6.1697
Li, Y., Li, X., & Liu, X. (2021). Corporate environmental performance and firm value: Evidence from water management in China. Journal of Cleaner Production, 294, 126254. https://doi.org/10.1016/j.jclepro.2021.126254
Suchman, M. C. (1995). Managing legitimacy: Strategic and institutional approaches. Academy of Management Review, 20(3), 571–610. https://doi.org/10.2307/258718
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยธนบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ซึ่งอนุญาตให้ผู้อื่นสามารถแชร์บทความได้โดยให้เครดิตผู้เขียนและห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าหรือดัดแปลง หากต้องการใช้งานซ้ำในลักษณะอื่น ๆ หรือการเผยแพร่ซ้ำ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร