วารสารปัญญาและคุณธรรม https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM <p><strong>ISSN : 3057-1677 (Online) </strong></p> <p><strong>วารสารปัญญาและคุณธรรม</strong> มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสนับสนุน ส่งเสริมให้นักวิชาการและผู้สนใจ ได้เสนอและเผยแพร่บทความบทความวิจัย บทความวิชาการ บทวิจารณ์หนังสือ บทความปริทรรศน์ และบทความพิเศษ ที่ได้มาตรฐานสู่สาธารณชน รวมทั้งยกระดับผลงานทางวิชาการให้ได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ด้วยหวังให้เป็นตลาดแห่งองค์ความรู้ที่สามารถค้นคว้า ถ่ายถอด และแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ เปิดรับบทความด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นด้านพระพุทธศาสนา ปรัชญา สันติศึกษา สังคมวิทยา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาชุมชม การศึกษา จิตวิทยา และรวมถึงสหวิทยาการเชิงประยุกต์ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่ก่อให้ปัญญาและคุณธรรม วารสารฯ กำหนดให้มีการเผยแพร่บทความ ปีละ 4 ฉบับ โดยบทความที่ตีพิมพ์เผยแพร่ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 ท่าน ทั้งนี้เปิดรับบทความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ</p> th-TH <p>ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร</p> journal.wim@gmail.com (ผศ.ดร.อุทัย สติมั่น) somporn77725@gmail.com (พระสมพร ปสนฺโน (หลังแก้ว)) Wed, 01 Oct 2025 00:54:50 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 ประสิทธิผลการบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลของ พระสังฆาธิการในตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/2288 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาระดับ 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ 3. เพื่อนำเสนอแนวทางการส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลของพระสังฆาธิการในตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่าง การวิจัยเชิงปริมาณ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.908 กับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พระสงฆ์ จำนวน 335 รูป วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิจัยเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 9 รูปหรือคน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา สรุปเป็นความเรียง</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับประสิทธิผลการบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลของพระสังฆาธิการในตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (=4.76, S.D.=0.20) 2. ค่าความสัมพันธระหว่าง การบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล กับ ประสิทธิผลการบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลของพระสังฆาธิการในตำบลเขาพระ โดยภาพรวม มีความสัมพันธ์กันเชิงบวก อยู่ในระดับมาก (r=0.812**) 3. แนวทางการส่งเสริมประสิทธิผลการบริหารจัดการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลของพระสังฆาธิการในตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก พบว่า 1) ส่งเสริมอาชีพสร้างชุมชนยั่งยืนและกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรม 2) ใช้กลไก “บวร” (บ้าน-วัด-โรงเรียน/รัฐ) พัฒนาชุมชนด้วยคุณธรรมและผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น 3) ส่งเสริมอาชีพพึ่งพาตนเอง และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 4) ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม สุขภาพ เศรษฐกิจ และการปรับตัวในสังคมพหุวัฒนธรรม 5) ใช้สื่อออนไลน์ พัฒนาศูนย์และระบบสืบค้นข้อมูลที่ใช้งานง่าย</p> พระณรงค์ ชาตวีโร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/2288 Wed, 01 Oct 2025 00:00:00 +0700 ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการเรียนการสอนออนไลน์ยุคนิวนอร์มัลของบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1467 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 2) ศึกษาระดับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในยุคนิวนอร์มัล และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ยุคนิวนอร์มัล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 385 คน ในปีการศึกษา 2567 ได้จากการคำนวณตามสูตรของ Yamane เครื่องมือวิจัยคือแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่น .911 ตามสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของ Cronbach การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล 2) การจัดการเรียนการสอนออนไลน์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านสื่อและเทคโนโลยีได้คะแนนสูงสุด 3) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับการเรียนการสอนออนไลน์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01</p> ปฐมเดช สุขศิริ, โสภี วิวัฒน์ชาญกิจ , ในตะวัน กำหอม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1467 Wed, 01 Oct 2025 00:00:00 +0700 วัฒนธรรมองค์กรเชิงบริหารกับความสำเร็จในการบริหารสถานศึกษาของบุคลากรทางการศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1466 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับวัฒนธรรมองค์กรเชิงบริหาร 2) ประเมินระดับความสำเร็จในการบริหารสถานศึกษา และ 3) สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบริหารกับความสำเร็จในการบริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 385 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลจะดำเนินการโดยการคำนวณค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาความสัมพันธ์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน</p> <p> ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 1) วัฒนธรรมองค์กรเชิงบริหารโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อแยกเป็นรายด้าน พบว่าอันดับแรกคือด้านความซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาคือด้านความหลากหลายของบุคลากร ด้านความเอื้ออาทร และอันดับสุดท้ายคือด้านความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสถานศึกษา 2) ความสำเร็จในการบริหารสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับสูงเช่นกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย พบว่าอันดับแรกคือด้านผู้บริหารสถานศึกษา รองลงมาคือด้านผู้ปกครองและชุมชน ด้านสถานศึกษา และอันดับสุดท้ายคือด้านครูผู้สอน 3) ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมองค์กรเชิงบริหารกับความสำเร็จในการบริหารสถานศึกษาโดยรวมมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับปานกลาง ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01</p> ปริญญา ธรรมชาติ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1466 Wed, 01 Oct 2025 00:00:00 +0700 อิทธิพลทุนทางจิตวิทยาด้านบวกกับคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1481 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับอิทธิพลทุนทางจิตวิทยาด้านบวก 2) ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตในการทำงาน 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอิทธิพลทุนทางจิตวิทยาด้านบวกกับคุณภาพชีวิตในการทำงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 385 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลคือ แบบสอบถาม โดยการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (M) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) รวมถึงการหาความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Correlation Coefficient)</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) อิทธิพลทุนทางจิตวิทยาด้านบวก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อันดับที่ 1 คือ ด้านความเชื่อมั่นในตนเอง รองลงมาคือ ด้านการมองโลกในแง่ดี ด้านความหวังในการทำงาน และอันดับสุดท้ายคือ ด้านความยืดหยุ่นทางอารมณ์ ตามลำดับ 2) คุณภาพชีวิตในการทำงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับที่ 1 คือ ด้านความภูมิใจในองค์กรรองลงมาคือ ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในงาน และอันดับสุดท้ายคือ ด้านภาวะอิสระจากงาน ตามลำดับ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างอิทธิพลทุนทางจิตวิทยาด้านบวกกับคุณภาพชีวิตในการทำงาน โดยภาพรวมมีค่าความสัมพันธ์ทางบวกอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จากผลการวิจัยนี้ สะท้อนถึงความสำคัญของอิทธิพลทางจิตวิทยาด้านบวกที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญ</p> ศิวนารถอุดม แก้วอุดม, โสภี วิวัฒน์ชาญกิจ , ในตะวัน กำหอม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/1481 Wed, 01 Oct 2025 00:00:00 +0700 การเล่าเรื่องสื่อพหุรูปแบบและการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมของแนวคิดปรัชญาเต๋า: กรณีศึกษาสื่อโปสเตอร์ละครโทรทัศน์ “เล่าจื๊อ จอมปราชญ์แดนมังกร” ฉบับภาษาไทย https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/2201 <p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะการใช้วาทกรรมในสื่อโปสเตอร์ของละครโทรทัศน์เรื่อง <em>“เล่าจื๊อ</em><em> จอมปราชญ์แดนมังกร” </em>ฉบับภาษาไทย ซึ่งออกอากาศในประเทศไทยเมื่อปี ค.ศ. 2017 และได้รับความนิยมจากผู้ชมจำนวนมาก โดยประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดทฤษฎีที่ครอบคลุมภาษาศาสตร์ไวยากรณ์ระบบเชิงหน้าที่ (SFL) และการวิเคราะห์วาทกรรมสื่อพหุรูปแบบ (MDA) เพื่อวิเคราะห์การสื่อความหมายของวาทกรรมที่ประกอบด้วยภาษาและภาพในแง่มุม 5 มิติ ได้แก่ (1) มิติทางวัฒนธรรม (2) มิติทางสถานการณ์บริบท (3) มิติทางอรรถศาสตร์ (4) มิติทางรูปแบบ และ (5) มิติทางสื่อกลาง</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า วาทกรรมในภาพโปสเตอร์ดังกล่าวใช้การสื่อสารด้วยรูปแบบเชิงภาษาและภาพเป็นหลัก เพื่อถ่ายทอดทัศนะ โดยผสานรวมกับองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีสัน รูปภาพ และอักษรข้อความ ทำให้เห็นถึงภูมิหลังทางวัฒนธรรม ฉากสถานการณ์ และอุดมการณ์ของละครต้นฉบับจีนอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตาม ภาพโปสเตอร์ไม่เพียงแต่กลั่นกรองเนื้อหาและสาระสำคัญของละครเท่านั้น แต่ยังใช้ทัศนศิลป์ในการช่วยให้ผู้ชมชาวไทยเข้าใจถึงภูมิปัญญาและแก่นแท้ของสารัตถะที่แฝงอยู่ในคัมภีร์ <em>“เต้าเต๋อจิง”</em> ของเล่าจื๊อ ดังนั้น การสื่อสารในรูปแบบพหุสื่อเช่นนี้ นอกจากช่วยเผยแพร่ความหมายแฝงเชิงจิตวิญญาณของสำนักปรัชญาเต๋าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสร้างแบบอย่างการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ส่งเสริมการผสมผสานและสะท้อนบทเรียนร่วมกันทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย</p> เหยา ซือฉี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารปัญญาและคุณธรรม https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so13.tci-thaijo.org/index.php/JWiM/article/view/2201 Wed, 01 Oct 2025 00:00:00 +0700